"ลูกท็อป-ประภัตร"นำทีมชทพ.พบ "บิ๊กตู่"ลงพื้นที่ครม.สัญจร ปากหวานให้อยู่ต่อเป็นสิบปี ลั่นพร้อมเล่นตามกติกา เมื่อเวลา 11.45 น.วันที่ 18 ก.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทาง มายังโรงเรียนเกษตรกรชาวนา สถาบันวิทยาศาสตร์ข้าวแห่งชาติ ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อเยี่ยมชมผลการดำเนินงานของโรงเรียนเกษตรกรชาวนาจังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) อาทิ นายวราวุธ ศิลปอาชา นายประภัตร โพธสุธน นายกรวีร์-นายภราดร ปริศนานันทกุล อดีตส.ส.อ่างทอง นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ นายสรชัด สุจิตต์ อดีต ส.ส. สุพรรณบุรี นายเสมอกัน เที่ยงธรรม อดีต ส.ส. สุพรรณบุรี ให้การต้อนรับ ซึ่งถือเป็นบิ๊กกลุ่มการเมืองกลุ่มแรกที่มาให้การต้อนรับพล.อ.ประยุทธ์ ระหว่างลงพื้นที่ประชุมครม.สัญจร แตกต่างจากการประชุมครม.สัญจรที่จังหวัดนครราชสีมาที่ไม่มีนักการเมืองมาปรากฎตัว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเข้ามาในเต้นต้อนรับซึ่งได้จัดเตรียมไว้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินเข้าไปทักทายนายวราวุธ พร้อมยิ้มอย่างเป็นกันเองก่อนถามว่า "สบายนะ" โดยนายวารุธพยักหน้าพร้อมกล่าวว่า "ขอบคุณครับท่าน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ไม่กินข้าวก็ได้เพราะดีใจที่ได้พบกับประชาชน ได้พบนายประภัตรและนายวราวุธ ปลื้มใจที่จะได้เห็นประเทศเปลี่ยนแปลง รัฐบาลยืนยันว่าไม่ได้เลือกข้าง โดยทุกคนต้องมาช่วยกันทำให้ประเทศเข้มแข็งและยั่งยืน ดีใจที่พบนักการเมืองด้วย เพราะท่านทำมาเยอะ นักการเมืองก็ต้องสัญญาว่าจะทำให้ประเทศดีขึ้น และนักการเมืองต้องไม่ผิดสัญญา "ผมฝากกับพี่ประภัตร ฝากกับท็อป ฝากกับปริศนานนันทกุล ผมขอฝากความหวังไว้กับทุกคน เราจะต้องไม่ขัดแย้งกันอีก เราต้องเดินหน้าให้ได้ ส่วนคดีใครถูกผิด ถูกตัดสิน ก็ว่ากันไปตามกระบวนการ และผมไม่ใช้มาตรา 44 ไปตัดสินใคร อยากให้พี่ประภัตรนึกถึงคนจังหวัดอื่นด้วย เป็นรัฐบาลคราวหน้าก็นึกถึงคนจังหวัดอื่นด้วย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า เราต้องเดินตามยุทธศาสตร์ชาติ และแผนการปฏิรูป โดยเอาปัญหาต่างๆมาร้อยเรียง แล้วใช้เวลาแก้ไขปัญหา ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เขียนไว้กว้างๆ ไม่ได้บีบรัด ยอมรับว่าวันนี้เศรษฐกิจไม่ดีนัก แต่บ้านเมืองก็จะมีปัญหาอีกไม่ได้ จึงอย่าเอาเศรษฐกิจมาปนกับเรื่องการเมือง และโครงการของรัฐบาลก่อนหากทำไว้ดีตนก็ไม่ได้ล้มซะทั้งหมด ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างที่พล.อ.ประยุทธ์พูดถึงการเลือกตั้ง นายประภัตร ได้แสดงความเห็นว่าถ้าประเทศยังไม่ปรองดองก็ไม่ต้องเลือกตั้ง แต่มีข้อแม้ว่านายกฯต้องลงพื้นที่บ่อยๆ ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ชักชวนให้นายประภัตรไปด้วยกัน จากนั้นนายกฯได้ชวนให้นายประภัตรอภิปราย โดยนายประภัตร กล่าวว่า "ขอบคุณที่นายกฯเปิดใจรับการเมือง เพราะนักการเมืองไม่ได้เลวทุกคน นักการเมืองดีก็มี การเลือกตั้งเร็วไม่ได้ประโยชน์ เพราะวันนี้ทะเลาะกัน ถ้าเลือกตั้งก็ต้องด่ากัน วันนี้ขอเพียงรัฐบาลแบ่งงบประมาณจากการโครงการรถไฟความเร็วสูงมาช่วยชาวนา เพราะเมื่อปากท้องของประชาชนอยู่ได้ นายกฯจะอยู่อีก 8 ปี 10 ปี ผมก็ไม่ว่า เพราะเวลานี้มีคนอยู่ได้ 2 ประเภทคือข้าราชการที่กินเงินเดือน และพระสงฆ์" จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า "นี่แหละบรรยากาศเลือกตั้งมาแล้ว แต่การเลือกตั้งครั้งหน้าจะต้องได้คนดี" จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ได้ขอความคิดเห็นจากนายวราวุธ ในฐานะคนรุ่นใหม่ โดยนายวราวุธ กล่าวว่า "เรายินดีที่คณะนายกฯให้เกียรติมาเยี่ยมจังหวัดสุพรรณบุรี คนสุพรรณบุรีอยู่กันเหมือนพี่น้องครอบครัวเดียวกัน และเราทำงานการเมืองโดยคิดถึงความอยู่ดีมีสุขของประชาชนชาวสุพรรณ โดยเฉพาะชาวนา หากรัฐบาลมีนโยบายอย่างไร พวกเราพร้อมสนองนโยบาย และการเลือกตั้งก็ให้นายกฯเป็นคนตัดสิน โดยพวกเราจะรอเล่นอย่างเดียว ปีนี้ผมเป็นประธานสโมสรฟุตบอลสุพรรณบุรี จึงต้องรอเล่นตามกติกาอย่างเดียว" ต่อมาพล.อ.ประยุทธ์ พูดติดตลกว่า "วันนี้เราใช้กติกาที่รัดกุม แต่ขอให้เล่นตามกติกา และขออย่าเอาผมไปเป็นผู้เล่นด้วยก็แล้วกัน วันนี้ผมทำหน้าที่เป็นกรรมการให้ทุกอย่างสงบเรียบร้อย ผมเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้จะกลายเป็นประเด็นพาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์พรุ่งนี้ โดยจะพาดหัวว่ารัฐบาลจะต่อท่ออำนาจ จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ได้สอบถามชื่อจริงของนักการเมืองที่มาร่วมงาน โดยไปสะดุดที่ชื่อนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ลูกชายของนายสมศักดิ์ ปริศนานนันทกุล แกนนำชทพ. พร้อมกล่าวแซวว่า "บอกคุณพ่อด้วยนะว่าบางทีคุณพ่อก็นะ" ทำให้บรรดาแกนนำชทพ.และประชาชนส่งเสียงหัวเราะ ก่อนที่พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า "ส่วนตัวแล้วรักกัน รู้จักกันตั้งนานแล้ว เมื่อก่อนตอนเป็นทหารทุกคนเมตตาผมหมด ไม่มีใครเป็นศัตรูผมเลย แต่เมื่อมาเป็นนายกฯทำไมศัตรูเยอะก็ไม่รู้" จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ได้ทดลองขับรถเครื่องยอดเมล็ดพันธุ์ข้าวในแปลงสาธิต โดยมีนายพิชิต เกียรติสมพร นักเรียนเกษตรกรรุ่นที่ 1 เป็นพี่เลี้ยง โดยนายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมนวัตกรรมที่ชาวนาได้ผลิตขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องทุ่นแรงและทำให้ผลิตผลมีคุณภาพและปริมาณสูงขึ้น