กองทัพเรือ จัดพิธีสวนสนามทางบก พิธีสวนสนามทางเรือ และพิธีย่ำพระสุริย์ศรี เพื่อเป็นเกียรติแก่ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในโอกาสเกษียณอายุราชการ เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 18 ก.ย. พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เดินทางไปยังลานเอนกประสงค์ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง เพื่อเป็นประธานในพิธีสวนสนามทางบก ซึ่งหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือในพื้นที่ภาคตะวันออก จัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้บัญชาการทหารเรือ ในโอกาสเกษียณอายุราชการ โดยมีกำลังพลจากหน่วยต่าง ๆ เข้าร่วมพิธี สวนสนาม ทางบก กำลังพลสวนสนามและยุทโธปกรณ์ ประกอบด้วย กองพันสวนสนามเดินเท้า จำนวน 3 กองพัน กองพันเดินเท้าที่ 1 จัดจาก หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง จำนวน 1 กองพัน กองพันเดินเท้าที่ 2 จัดจาก หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน จำนวน 1 กองพัน กองพันเดินเท้าที่ 3 จัดจาก โรงเรียนชุมพลทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ จำนวน 1 กองพัน กองพันสวนสนามวิ่ง จำนวน 2 กองพัน กองพันวิ่งที่ 1 จัดจาก หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง จำนวน 1 กองพัน กองพันวิ่งที่ 2 จัดจาก หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน จำนวน 1 กองพัน กองพันสวนสนามยานยนต์ จำนวน 4 กองพัน กองพันยานยนต์ที่ 1 จัดจาก หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง มียุทโธปกรณ์ประกอบด้วย -ปืนต่อสู้อากาศยาน ขนาด 37 มิลลิเมตร จำนวน 2 แท่น -ไดเรคเตอร์ 5M1 -ปืนต่อสู้อากาศยาน ขนาด 40/70 มิลลิเมตร จำนวน 1 กระบอก -เครื่องควบคุมการยิง F/C จำนวน 1 เครื่อง -อาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู่อากาศยานแบบประทับบ่ายิง QW-18 จำนวน 1 กระบอก -ปืนใหญ่กลางกระสุนวิถีโค้งขนาด 155 มิลลิเมตร จำนวน 3 แท่น กองพันยานยนต์ที่ 2 จัดจาก หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง มียุทโธปกรณ์ประกอบด้วย -BOR-A550 จำนวน 2 เครื่อง -รถสื่อสารเชื่อมโยง จำนวน 2 คัน -รถเรดาร์ จำนวน 2 คัน -รถพยาบาล จำนวน 2 คัน -รถครัวสนาม จำนวน 2 คัน -รถชานต่ำ/ปืนใหญ่กลางกระสุนวิถีโค้งขนาด 155 มิลลิเมตร จำนวน 2 แท่น กองพันยานยนต์ที่ 3 จัดจาก หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน -รถ HMMWV จำนวน 11 คัน -ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีโค้ง ขนาด 105 มิลลิเมตร จำนวน 6 กระบอก -รถ BTR จำนวน 4 คัน -รถ V 150 จำนวน 2 คัน กองพันยานยนต์ที่ 4 จัดจาก หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ มียุทโธปกรณ์ ประกอบด้วย -รถยนต์โจมตี จำนวน 2 คัน -เรือปฏิบัติการความเร็วสูงชุด เรือ พ.51 จำนวน 2 ลำ -เรือ RIB จำนวน 2 ลำ จากนั้นเวลา 10.45 น. ผู้บัญชาการทหารเรือและคณะ ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือ ไปยังเรือหลวงจักรีนฤเบศร ซึ่งจอดลอยลำอยู่กลางอ่าวสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นประธานในพิธีสวนสนามทางเรือที่กองทัพเรือ โดยกองเรือยุทธการจัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้บัญชาการทหารเรือ เมื่อเดินทางถึงเรือหลวงจักรีนฤเบศร พล.ร.อ.สุชีพ หวังไมตรี ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ผู้บัญชาการกองเรือสวนสนาม ได้ให้การต้อนรับและเชิญผู้บัญชาการทหารเรือเข้าห้องรับรอง ก่อนจะเชิญผู้บัญชาการทหารเรือ ขึ้นแท่นรับความเคารพ จากนั้น เรือหลวงปิ่นเกล้า ยิงสลุต จำนวน 19 นัด และเริ่มพิธีสวนสนามทางเรือ ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีสวนสนามทางเรือ ผู้บัญชาการทหารเรือได้กล่าวอำลาชีวิตราชการ พร้อมทั้งรับมอบของที่ระลึกจากผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ก่อนจะเดินทางกลับ สำหรับพิธีสวนสนามทางเรือที่จัดให้มีขึ้นในครั้งนี้ มีเรือหลวงจักรีนฤเบศรเป็นเรือรับรองเรือหลวงปิ่นเกล้าเป็นเรือยิงสลุต ในส่วนเรือที่เข้าร่วมสวนสนามรวมทั้งสิ้น 13 ลำ อากาศยาน 6 ลำ ประกอบด้วย 1.หมู่เรือสวนสนาม ประกอบด้วย เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงนเรศวร เรือหลวงตากสิน เรือหลวงสายบุรี เรือหลวงมกุฎราชกุมาร เรือหลวงคีรีรัฐ เรือหลวงสุโขทัย เรือหลวงปัตตานี เรือหลวงแหลมสิงห์ เรือหลวงสงขลา เรือหลวงท่าดินแดง 2.หมู่เรือรักษาความปลอดภัย ประกอบด้วย เรือ ต.112 เรือ ต.82 เรือ ต.995 เรือ ต.996 เรือ ต.261 เรือ ต.262 เรือปฏิบัติการความเร็วสูงชุด เรือ พ.51 3.หมวดเรือสนับสนุน ประกอบด้วย เรือหลวงจุฬา เรือหลวงมาตรา เรือหลวงแรด 4.หมวดบินสวนสนาม ประกอบด้วย ฮ.ปด.1 (S-70B) ฮ.ลล.6 (EC645T2) บ.ลว.1 (Do-228) บ.ตผ.1 (F27MK200) บ.ตช.1 (T337) ฮ.ลล.2 (Bell212) 6.หมวดบินรับรอง ประกอบด้วย บ.ลล2 (EMB-135) ฮ.ลล.5 (MH-60S) ฮ.ปด.1 (S-70B) สำหรับในช่วงเย็นของวันเดียวกัน เวลา 17.15 น. ผู้บัญชาการทหารเรือ เดินทางไปเป็นประธานในพิธีอำลาชีวิตการรับราชการและพิธีย่ำพระสุริย์ศรี ณ สนามหน้าหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ได้จัดให้มีขึ้น ประกอบด้วย การสวนสนามของทหารนาวิกโยธิน การแสดงโดดร่ม พิธีกล่าวอำลาชีวิตราชการ พิธีย่ำพระสุริย์ศรี และการแสดงพลุ ดอกไม้ไฟ เป็นอันเสร็จพิธี สำหรับพิธีย่ำพระสุริย์ศรี เป็นพิธีการของทหารเรือไทยพิธีหนึ่ง คล้ายกับการสวนสนามเพื่ออำลาชีวิตราชการของผู้บังคับบัญชาระดับสูง เช่น ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการหน่วยนาวิกโยธิน เป็นต้น ซึ่งพิธีนี้นั้นจะเริ่มกระทำในเวลาที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าพอดี (ประมาณ 18.00 น.) ถือเป็นขนบธรรมเนียมของทหารหน่วยนาวิกโยธิน โดยมีการอัญเชิญธงราชนาวีลงจากยอดเสา โดยทั่วไปที่ถือเอาเวลาพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าเป็นหลัก จึงได้ชื่อว่า “พิธีย่ำพระสุริย์ศรี” ซึ่งเรียกตามชื่อ “เพลงพระสุริย์ศรี” ซึ่งเป็นเพลงที่เกิดจากภูมิปัญญาทหารเรือไทยที่พัฒนาจากจังหวะเพลงย่ำค่ำ มาเป็นเพลงบรรเลงรูปจบกระบวนของการแสดงดนตรีสยาม หรือเพลง ฟีนาเล่ และด้วยเหตุผลที่ว่าขนบธรรมเนียมประเพณีทหารเรือ เมื่อเชิญธงราชนาวีลงจากยอดเสา พลแตรเดี่ยวจะเป่าเพลง ย่ำค่ำ อันเป็นตำนานเก่าแก่สืบมาช้านาน จึงน่าอนุโลมใช้คำ ย่ำพระสุริย์ศรี กับพิธีการเช่นนี้ได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ตรงกับความหมายในภาษาอังกฤษนัก แต่มีความหมายในภาษาไทยว่า การจบ สิ้นสุด หรือยุติลงอย่างสง่างาม ซึ่งสอดรับกับพิธีการของการอำลาชีวิตราชการอย่างกลมกลืน ดังนั้น พิธีย่ำพระสุริย์ศรี จึงมีความเป็นมาด้วยประการเช่นนี้ โดยพิธีการนี้ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน มิได้ลอกเลียนแบบมาจากหน่วยทหารสวนสนามของนาวิกโยธินสหรัฐอเมริกาแต่อย่างใดเพียงแต่อาศัยเค้าโครงมาสอดแทรกการแสดงทางทหารประกอบวงโยธวาทิต ซึ่งทั้งสิ้นจะกระทำอยู่ท่ามกลางความสว่างจากดวงไฟที่จัดไว้อย่างเหมาะสม โดยมีลำแสงของพระอาทิตย์ที่ทาบทาท้องฟ้ายามเย็นย่ำเป็นฉากหลังที่สวยงามตามธรรมชาติ และปิดท้ายด้วยการจุดพลุดอกไม้ไฟอันงดงามตระการตา หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน จะจัดพิธีเช่นนี้ขึ้นเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ หรือเทิดเกียรติบุคคลสำคัญของกองทัพเรือเท่านั้น พิธีดังกล่าว จะใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเวลาที่ลำแสงสุดท้ายของพระอาทิตย์จะค่อย ๆ เลือนลับไปกับความมืด และเหมาะสมสำหรับการต่อด้วยงานเลี้ยงรับรองอย่างเป็นพิธีการ ที่สามารถจัดขึ้นในเวลาถัดไปในสถานที่ที่อยู่ใกล้เคียงกัน พิธีย่ำพระสุริย์ศรี มีขึ้นครั้งแรกที่บริเวณที่บริเวณสนามหน้ากองบัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ค่ายกรมหลวงชุมพร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ.2522 ในโอกาสที่หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ฉลองพระเกียรติ เรือโทหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี และได้จัดให้มีพิธีเช่นเดียวกันนี้ต่อเนื่องอีกหลายครั้งจนถึงปัจจุบันการจัดพิธีย่ำพระสุริย์ศรีในวันนี้ เป็นครั้งที่ 27 เนื่องในโอกาสอำลาชีวิตราชการของผู้บัญชาการทหารเรือ และข้าราชการในสังกัดหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินอีก จำนวน 126 ท่าน โดยมี พลเรือเอก ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธี โดยนางปราณี อารีนิจ นายกสมาคมภริยาทหารเรือพร้อมด้วยภริยานายทหารชั้นผู้ใหญ่ และครอบครัวผู้เกษียณอายุราชการเข้าร่วมพิธีด้วย