"บิ๊กก้อง" ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เผยว่า เรื่องของการให้ความช่วยเหลือ เยียวยาสโมสรนั้นกำลังจะเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ติดประเด็นเรื่องข้อกฎหมายบางข้อ แต่ตอนนี้มีการตีความชัดเจน สามารถเดินหน้าได้แล้ว ดังนั้นอีกไม่นานสโมสรจะได้รับความช่วยเหลือตรงนี้ "ปัจจุบันทางกกท.ก็ให้ความช่วยเหลือทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในส่วนของเงินรางวัล รวมถึงเข้าไปเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดในช่วงที่เหลือของฤดูกาล หลังจากที่หมดสัญญากับทรูวิชั่นส์ไป เพราะไม่ต้องการให้การแข่งขันหยุดชะงัก และเมื่อจบฤดูกาล ทางสมาคมฯ ก็จะมีเงินจำนวนหนึ่งสามารถนำไปช่วยเหลือแจกจ่ายให้กับสโมสรได้อีกทาง" ด้าน "รองน้อย" นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม รองผู้ว่าการ กทท.ฝ่ายกีฬาอาชีพ และกีฬามวย กล่าวว่า คณะกรรมการกีฬาอาชีพ โดย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวเเละกีฬา เล็งเห็นถึงความสำคัญของ การช่วยเหลือและพัฒนาฟุตบอลอาชีพหลังโควิด ได้เร่งดำเนินการหาทางช่วยเหลือ ได้ให้ทำแผนขอความช่วยเหลือไปยัง คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ส่วนที่ขอความช่วยเหลือ แบ่งเป็น 2 ส่วน วงเงินประมาณ 180 ล้านบาท 1.ให้กับผู้จัดการแข่งขันฟุตบอลอาชีพ อาทิ การจัดแข่งขัน, ค่าตอบแทนบุคลากร, ค่าตอบแทนผู้ตัดสิน และ2.ช่วยเหลือสโมสร โดยให้สโมสรยื่นเรื่องเสนอขอรับการช่วยเหลือเข้ามา โดยการช่วยเหลือจะลดหลั่นกันไป สูงสุดที่สโมสรละ 3 ล้านบาท แผนการขอความช่วยเหลือวงการฟุตบอลดังกล่าว คณะกรรมการกีฬาอาชีพ ได้เสนอต่อ คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ได้พิจารณา ซึ่งจะมีการประชุมกันวันที่ 24 มี.ค.64 นายทนุเกียรติ กล่าวว่า คณะกรรมการกีฬาอาชีพ, กกท., เข้าใจดีถึงสถานการณ์ของวงการฟุตบอลไทย ที่ต้องเผชิญสภาวะลำบาก ซึ่งหลายฝ่ายก็ได้ผลกระทบ สปอนเซอร์ถอนตัว รายได้หายไปเยอะ บอลลีกอาชีพนั้น ผู้ให้การสนับสนุนเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่ง "เข้าใจดีถึงสภาวะเศรษฐกิจ บริษัทห้างร้านต่างๆ ก็เจอผลกระทบ ต้องปรับกลยุทธ เขาต้องประคองตัวเองให้อยู่รอดก่อน จึงจะมายื่นมือช่วยเหลือรอบข้าง" ด้วยภาระที่ต้องดูแลกีฬาหลากหลาย แม้จะไม่สามารถช่วยวงการฟุตบอลทั้งหมด ก็เป็นการช่วยพยุงให้เดินไปได้ "เราพยายามประคับประคองให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด พยายามจูงมือเดินกันไป จนกว่าสภาวะเศรษฐกิจจะดีขึ้น สปอนเซอร์กลับมาเทเม็ดเงินกับวงการฟุตบอลได้ดังเดิม ซึ่งหากไม่มีการติดเชื้อกระจายรุนแรงอีก ก็คาดว่าอาจจะสัก 2-3 ปี กว่าจะปกติ" ทั้งนี้ฟุตบอลอาชีพไทย ผ่านอะไรมามากมาย จากวันที่ล้มลุกคลุกคลาน คนดูมีแค่หยิบมือ จนก้าวสู่ระดับอาชีพ มีผลตอบแทนมหาศาล บางสนาม บางสโมสรแทบจะต้องตบตีแย่งชิงตั๋วชมการแข่งขัน "วิกฤติโควิดทำให้เจอแรงกระแทกหนัก หากปล่อยให้เดินกันไปเอง ก็คงจะอีกนานกว่าจะกลับมาได้ ยิ่งถ้าถึงขั้นแข่งขันกันไม่ได้ จะยิ่งฟุบนาน จึงจำเป็นต้องประคับประคอง ให้มีการแข่งขันต่อไป" อย่างไรก็ตามจะพยายามช่วยเหลือให้ดีที่สุด ก็จะนำเสนอกับ คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ซึ่งต้องอยู่ที่การพิจารณาของ คณะกรรมการบริหารกองทุนฯ จะเห็นสมควร หากจะบอกว่าถึงวันนี้ ฟุตบอลอาชีพไทย ก้าวสู่แถวหน้าของเอเชียก็ไม่ผิด ความนิยมแพร่หลาย มีถ่ายทอดสดไปหลายประเทศในเอเชีย และด้วยรากฐานที่แข็งแกร่ง บวกกับการประคับประคองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ลีกไทยจะทำให้กลับมาสู่ภาวะปกติเดินอย่างมั่นคงในเร็ววัน