เมื่อวันที่ 11 เม.ย.นายยุทธพงศ์ จรัสเสถีนร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย(พท.) แถลงถึงกรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านจะแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับต้องทำตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สามารถแบ่งเป็น 3 วิธีคือ1.ต้องรอ พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ประกาศใช้ก่อนในช่วงเดือนมิ.ย.จากนั้นเสนอเรื่องเพื่อถามประชาชน ต้องอาศัยมติเสียงข้างมากของรัฐสภาว่าจะให้จัดทำรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่ 2.หากยื่นญัตติเพื่อแก้ไขมาตรา 256 ไปที่ประธานรัฐสภา ให้จัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ เท่าที่ตรวจดู หากมีการยื่นญัตติก็ไม่สามารถทำได้ เพราะฝ่ายกฎหมายของรัฐสภาก็คงมีความเห็นว่า เป็นญัตติที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ จึงไม่สามารถเสนอบรรจุญัตติเข้าสู่การพิจารณาได้ และ 3.การทำประชามติ คงทำได้เพียงถามประชาชนว่า จะให้จัดทำรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่เท่านั้น โดยไม่สามารถถามว่า ให้ตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) หรือไม่ เพราะเป็นคำถามที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 166 ที่ระบุว่า ไม่สามารถถามเรื่องที่เกี่ยวกับบุคคล หรือคณะบุคคลไม่ได้ “การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับจึงมีขั้นตอนและปัญหามาก ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาอีกนาน ไม่ต่ำกว่า 4-5 เดือน ส่วนตัวเชื่อว่าการขอทำประชามติเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่จะไม่สำเร็จเพราะไม่มีความจำเป็น ให้มาแก้ไขรายมาตราดีกว่า จะยื่นแก้ไขเป็นร้อยมาตราก็ทำได้ แต่จะผ่านหรือไม่ผ่านก็อยู่ที่สมาชิกรัฐสภา อย่างไรก็ตามอนาคตอาจจะสำเร็จ แต่ก็อาจจะใช้เวลาอีกหลายปี แต่ในระยะ 2 ปีนี้ก็คงไม่ได้”นายไพบูลย์ กล่าว