เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 64 นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วย นายบุญช่วย น้อยสันเทียะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร , พันตำรวจโท จิตต์ ศรีโยหะ มุกดาธนพงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร , นายเอกราช มณีกรรณ์ ปลัดจังหวัดมุกดาหาร , นายแพทย์พงษ์วิทย์ วัชรกิตติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมุกดาหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินทางลงพื้นที่ตรวจความพร้อม โรงพยาบาลสนามจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งตั้งอยู่ที่อาคารจงวุฒิเวศย์ บริเวณสนามกีฬากลางจังหวัดมุกดาหาร ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ของจังหวัดมุกดาหารที่เกิดการระบาดวงกว้างและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมเปิดใช้งานโดยมีทีมบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข พร้อมอุปกรณ์ในการให้การดูแลผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา ซึ่งเบื้องต้นมีการจัดเตรียมเตียงไว้รองรับผู้ป่วยจำนวน 180 คน แบ่งเป็นผู้หญิงและผู้ชาย นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า วันนี้ด้วยความเป็นห่วงของผู้หลักผู้ใหญ่ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร ทีมแพทย์และทีมสาธารณสุขของจังหวัดมุกดาหาร เราก็ได้มาดูความพร้อมของโรงพยาบาลสนามของจังหวัดมุกดาหาร โดยใช้สถานที่ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหารเป็นโรงพยาบาลสนาม ปรากฏว่าเราดำเนินการเตรียมความพร้อมไว้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ตามที่ได้รับรายงานจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลมุกดาหารว่าสามารถจัดตั้งได้ภายใน 3 วัน ซึ่งโรงพยาบาลสนามแห่งนี้สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 180 คน ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวอีกว่า ขอให้ชาวมุกดาหารมั่นใจได้ว่าเรามีสถานที่รักษาพยาบาลได้อย่างเพียงพอ นอกเหนือจากโรงพยาบาลมุกดาหาร โรงพยาบาลชุมชน และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ซึ่งรองรับผู้ป่วยที่อาจไม่แสดงอาการ มีอาการเล็กน้อย แต่สามารถเป็นพาหะแพร่เชื้อโรคโควิด19 ได้นำมาแยกกักตัวเพื่อสังเกตอาการเป็นระยะเวลา 14 วัน จึงจะส่งตัวกลับไปสังเกตอาการต่อที่บ้าน 14 วัน ส่วนถ้าหากผู้ป่วยคนใดมีอาการรุนแรงขึ้นจะส่งตัวต่อไปที่โรงพยาบาลเพื่อทำการรักษา และนอกจากนี้ จากข่าวที่ปรากฏตามสื่อต่างๆก็แสดงให้เห็นแน่ชัดแล้วว่าเป็นการระบาดในระรอกที่ 3 ซึ่งค่อนข้างรุนแรงและเป็นบริเวณกว้างตามที่ ศบค. แถลงซึ่งทุกคนมีความเสี่ยงในการรับเชื้อโควิด19 ฝากถึงพี่น้องชาวมุกดาหารให้ปฏิบัติตามมาตรการต่างๆของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เช่น สวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ ลงทะเบียน ไทยชนะ หมอชนะ สำหรับผู้ที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาที่จังหวัดมุกดาหาร ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ หากมีประวัติการเดินทางไปในสถานที่เสี่ยง หรือใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยง ขอความร่วมมืออย่าปิดบังข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ โดยสามารถเดินทางกลับมาได้แต่ว่าขอให้แจ้ง อสม. ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อสอบสวนโรคเพื่อไม่ให้เชื้อโควิด19 แพร่กระจายออกไปยังจังหวัดต่างๆ ย้ำว่ายินดีต้อนรับทุกท่านกลับภูมิลำเนาแต่ขอให้อย่าปิดบังข้อมูล และจังหวัดมุกดาหารไม่มีการปิดเมืองแต่จะมีมาตรการสำหรับผู้เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุม/พื้นที่เฝ้าระวังสูงสุด/พื้นที่เฝ้าระวัง ประกอบด้วย 1. กรุงเทพมหานคร เขตบางแค เขตภาษีเจริญ เขตบางขุนเทียน เขตวัฒนา ( ย่านทองหล่อ , เอกมัย) เขตคลองเตย 2. ปทุมธานี อำเภอธัญบุรี อำเภอลำลูกกา 3. นนทบุรี อำเภอบางใหญ่ 4. สมุทรปราการ อำเภอเมือง 5.นครปฐม อำเภอพุทธมณฑล 6.ตาก อำเภอแม่สอด 7. สมุทรสาคร อำเภอเมือง อำเภอกระทุ่มแบน อำเภอบ้านแพ้ว และ 8. พื้นที่อื่นที่พบมีผู้ติดเชื้อภายใน 14 วัน เมื่อเดินทางมาถึงจังหวัดมุกดาหาร ต้องสแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อลงทะเบียน ให้รายงานตัวต่อผู้ใหญ่บ้าน/อสม./เจ้าหน้าที่สาธารณสุข กักตัวสังเกตอาการที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน และสอบสวนโรคโดยเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคติดต่อ ส่วนในเรื่องแผนการฉีดวัคซีนของจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งได้เริ่มฉีดวัคซีน ตั้งแต่วันที่ 5 - 9 เมษายน 2564 โดยฉีดครบ 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นการจัดสรรของ ศบค. ให้จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเป็น 1 ใน 8 จังหวัด ติดกับชายแดน ได้รับครั้งแรก จำนวน 5,000 โดส ฉีดได้คนละ 2 เข็ม จำนวน 2,500 คน ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดให้ลงทะเบียน APP หมอพร้อม ด้วยตนเองหรือไปลงทะเบียนที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือโรงพยาบาลใกล้บ้าน ซึ่งคาดว่าจะได้รับวัคซีนครั้งต่อไป ในช่วงเดือนเมษายน อีกจำนวนหนึ่ง และ ในช่วงเดือนมิถุนายน จะได้รับวัคซีนล็อตใหญ่ ซึ่งจะต้องรอรับการจัดสรรจาก ศบค. ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับชาวมุกดาหารครบทุกคนในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งหากทางจังหวัดมุกดาหารได้รับจัดสรรจะสามารถดำเนินการในการฉีดวัคซีนได้อย่างรวดเร็วและครบทุกคน ที่ผ่านมาต้องขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลของจังหวัดมุกดาหารที่ดำเนินการบริหารจัดการการฉีดวัคซีนครบ 100 เปอร์เซ็นต์ได้อย่างรวดเร็ว