เมื่อวันที่ 9 เมษายน เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยที่สนส.2/2564 เรื่องการให้สินเชื่อเพื่อผู้สูงอายุโดยมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน(ReverseMortgage) ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เหตุผลในการออกประกาศการให้สินเชื่อเพื่อผู้สูงอายุโดยมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน(ReverseMortgage) เป็นมาตรการรองรับสังคมผู้สูงอายุมาตรการหนึ่ง ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจเป็นธนาคารนำร่องในการให้สินเชื่อดังกล่าวเพื่อรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศในระยะต่อไปการให้สินเชื่อเพื่อผู้สูงอายุโดยมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันเป็นธุรกรรมสินเชื่อรูปแบบใหม่ที่มีลักษณะแตกต่างจากสินเชื่อทั่วไปกล่าวคือ เป็นธุรกรรมสินเชื่อที่ให้กับผู้กู้ที่เป็นผู้สูงอายุเช่นผู้ที่เกษียณอายุจากการทำงานโดยนำที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของตนและปลอดภาระหนี้มาเป็นหลักประกัน ในการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจเพื่อเพิ่มเงินได้ในการดำรงชีพซึ่งจำนวนเงินที่ผู้กู้จะได้รับขึ้นอยู่กับอายุของผู้กู้มูลค่าของที่อยู่อาศัย และอัตราดอกเบี้ยโดยผู้กู้จะได้รับเงินให้สินเชื่อในลักษณะทยอยรับเป็นงวดจนกว่าผู้กู้จะเสียชีวิตหรือครบกำหนดอายุสัญญาสินเชื่อตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงไว้และในระหว่างที่ผู้กู้ยังไม่เสียชีวิตหรือสัญญายังไม่ครบกำหนดนั้นผู้กู้ยังคงมีกรรมสิทธิ์และสามารถอาศัยอยู่ในที่อยู่อาศัยที่นำมาเป็นหลักประกันดังกล่าวได้โดยไม่ต้องชำระคืนสินเชื่อจนกว่าผู้กู้จะเสียชีวิตหรือครบกำหนดอายุสัญญาสินเชื่อแล้วแต่กรณี ด้วยลักษณะดังกล่าวข้างต้นการให้สินเชื่อเพื่อผู้สูงอายุโดยมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันจึงก่อให้เกิดความเสี่ยงทั้งต่อสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่เป็นผู้ให้กู้และผู้สูงอายุที่เป็นผู้กู้แตกต่างจากสินเชื่อทั่วไป ดังนั้นเพื่อให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจมีการบริหารความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อเพื่อผู้สูงอายุโดยมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันอย่างเหมาะสมธนาคารแห่งประเทศไทยจึงกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการให้สินเชื่อเพื่อผู้สูงอายุโดยมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันเพื่อให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจถือปฏิบัติให้สอดคล้องกันตามหลักเกณฑ์ของประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยและแนวนโยบายที่เกี่ยวข้อง เช่นการจัดทำนโยบายการให้สินเชื่อการวิเคราะห์สินเชื่อการจัดชั้นและกันเงินสำรองการดำรงเงินกองทุนการเรียกเก็บดอกเบี้ย และค่าบริการต่างๆ และการรับรู้รายได้ นอกจากนี้สถาบันการเงินเฉพาะกิจควรให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้บริโภคโดยผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเสนอสินเชื่อเพื่อผู้สูงอายุ โดยมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันควรมีความรู้ความเข้าใจในสินเชื่อดังกล่าวและนำเสนอหรือสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้กู้เกี่ยวกับลักษณะของสินเชื่อความเสี่ยงและสิทธิในกรณีต่างๆอย่างชัดเจนเพื่อให้ผู้กู้สามารถตัดสินใจได้ตรงตามความต้องการและความเสี่ยงที่ตนสามารถ