ผู้อำนวยการ ททท.พัทยา ชี้ หลังจากวัคซีนมาแล้วจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวเกิดการเดินทางมากขึ้นสำหรับตาดคนไทย ส่วนตลาดต่างชาติต้องรอแนวทางปฏิบัติการทำงานเรื่องวัคซีนพาสปอร์ตของรัฐบาล เชื่อไตรมาสสุดท้ายประเทศเปิดกว้างมากขึ้นหลังจากวัคซีนมีการกระจายมากขึ้น หลังจากภาครัฐได้ส่งมอบวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้กับพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศเพื่อทำการฉีดป้องกันให้กลุ่มเสี่ยงกลุ่มแรก และทยอยจัดสรรวัคซีนส่งมอบอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของพื้นท่ีอุตสาหกรรมการท่องเท่ียว เช่น เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้มีการส่งมอบวัคซีนและทำการฉีดให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยง ทั้งเจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งกระจายต่อมายังกลุ่มบุคคลากรผู้ประกอบการด้านการท่องเท่ียวนั้น นายขจรเดช อภิชาติตรากุล ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพัทยา กล่าวว่า ในเรื่องของวัคซีนท่ีมามากขึ้น จะทำให้สถานการณ์ท่องเที่ยวดีขึ้น ทำให้หลายประเทศเกิดการเดินทางมากขึ้น ในส่วนของคนไทยเองมีผลในเรื่องของความเชื่อมั่น เพราะเชื่อว่าหากกลุ่มแรกคือกลุ่มบุคคลากรทางการแพทย์ได้รับวัคซีนแล้ว จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีทำให้เกิดการเดินทางที่มีสภาพคล่องมากขึ้น ทั้งนี้ ททท.มองว่าตลาดในส่วนของคนไทยนั้น เชื่อว่าหากมีการกระจายของวัคซีนในไตรมาสที่ 2 คือ ตั้งแต่เดือน มี.ค.เป็นต้นไป จนถึงไตรมาสที่ 3 จะทำให้นักท่องเที่ยวมีภูมิคุ้มกันเพิ่มมากขึ้นในระดับที่น่าไว้วางใจ และสามารถท่องเที่ยวได้จนทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลับมาพลิกฟื้นได้เร็วสำหรับตลาดคนไทย ในส่วนของตลาดต่างปประเทศนั้น อยากให้มีการขยายผลในเรื่องของการทำวัคซีนพาสปอร์ตที่รัฐบาลเห็นชอบตามหลักการที่ให้นักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนแล้วสามารถเข้ามาท่องเที่ยวได้แต่จะมีการพิจารณาเรื่องกักตัว ที่ต้องมีสถานที่และมีระบบความพร้อมด้านสาธารณสุขที่ชัดเจน และเชื่อว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายคือช่วงเดือน ต.ค. ประเทศจะเปิดกว้างมากขึ้น เพราะว่าวัคซีนมีการกระจายไปสู่นักชาวต่างชาติที่จะเข้ามามีมากขึ้น และคนไทยเองก็ได้รับการจัดสรรวัคซีนที่ปริมาณที่เพียงพอและปลอดภัย นายขจรเดช อภิชาติตรากุล ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพัทยา กล่าวต่อว่า ตามที่รัฐบาลดำเนินการในเรื่องของ 5 พื้นที่หลัก ที่จะนำร่องในเรื่องของ Area Quarantine ได้แก่ ภูเก็ต, เชียงใหม่, สุราษฎร์-เกาะสมุย, กระบี่-เกาะพงัน, ชลบุรี-เมืองพัทยา นั้น กำลังศึกษาความเป็นไปได้ในเรื่องความพร้อมหลังจากเริ่มที่ภูเก็ตก่อน เพราะว่าพื้นที่เมืองพัทยาไม่ใช่พื้นที่ปิดเหมือนเกาะภูเก็ต ซึ่งต้องดูในเรื่องของผลกระทบต่างๆ ด้วย ทั้งนี้ เชื่อว่าประเทศแรกๆ ที่มีความพร้อมที่จะเดินทางเข้ามานั้นเชื่อว่าจะเป็นกลุ่มตลาดหลักของเมืองพัทยาอยู่แล้ว คือกลุ่มรัสเซีย ซึ่งมีความพร้อมที่จะเดินทาง อีกกลุ่มที่เป็นลูกค้าหลักหนึ่งใน 5 ของเมืองพัทยาอยู่แล้ว คือกลุ่มอินเดีย ซึ่งต้องดูเรื่องความปลอดภัยจากต้นทางว่าสามารถควบคุมเรืองของวัคซีนได้ขนาดไหนก่อนจะต้อนรับเข้ามา ในส่วนของตลาดจีนนั้นยังอยู่ในระหว่างการเจรจาพูดคุย เนื่องจากจีนเป็นตลาดใหญ่ และมีนโยบายภายในประเทศที่ส่งเสริมในคนจีนท่องเที่ยวภายในประเทศอยู่ ตลาดจีนจึงยังไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายหลักที่จะเข้ามาเป็นตลาดแรกๆ