วันที่ 6 เม.ย.64 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “ตามที่ กกต.ได้กำหนดให้มีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกเทศบาลเมื่อ 28 มี.ค.64 ที่ผ่านมา แต่ปรากฎว่า ในเขตเทศบาลเมืองลำสามแก้ว จ.ปทุมธานี มีการร้องเรียนจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งเป็นจำนวนมากว่า การจัดการเลือกตั้งและการเลือกตั้งอาจมิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม และฝ่าฝืนกฎหมาย”
“ทั้งนี้ ตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 ม.65(5) กำหนดห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น ด้วยวิธีการหลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัคร”
“แต่ปรากฎว่า มีผู้สมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งดังกล่าวบางรายหรือบางกลุ่ม อาจดำเนินการที่เข้าข่ายการกระทำที่ให้บุคคลอื่นเข้าใจว่าพรรคการเมืองเป็นผู้ส่งลงสมัครรับเลือกตั้งในนามของพรรค ทั้งๆที่พรรคดังกล่าวได้แจ้งเป็นหนังสือแล้วว่าห้ามใช้ชื่อพรรคในการหาเสียง ซึ่งกรณีดังกล่าว กกต.ท่องถิ่นรับรู้มาโดยตลอด แต่กลับมิใช่อำนาจในการยับยั้งหรือตัดสิทธิ์ผู้สมัครรายและกลุ่มดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจมีโทษตาม ม.126 วรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลอาจเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปีด้วย”
“นอกจากนั้น ยังมีกรณีล่าสุดที่พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หน.พรรคฯได้ทำขันน้ำจำนวนกว่า 2 แสนใบ ให้ ส.ส.ของพรรคนำไปแจกจ่ายประชาชนในพื้นที่เลือกตั้งของตนเองในช่วงสงกรานต์ด้วย ซึ่งอาจเป็นการขัดต่อระเบียบ กกต.ว่าด้วยจำนวน หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขของการให้ตามประเพณีหรือเมื่อมีเหตุอันสมควรฯ 2561 และฉบับที่ 2 (พ.ศ.2564) อีกด้วย”
“ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จำนำความไปร้องเรียนต่อ กกต. ในวันพุธที่ 7 เม.ย.64 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงาน กกต. ศูนย์ราชการฯ อาคาร B เขตหลักสี่ กทม. เพื่อให้ดำเนินการสอบสวนและไต่สวนเอาผิด ตามครรลองของกฎหมายต่อไป”