สุดเวทนาพ่อแม่ “น้องแป้ง” เด็กหญิงชมพูนุช ภูนาเชียง อายุ 2 ขวบ 2 เดือน ชาวตำบลคลองขาม อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นผู้ป่วยติดเตียงมาตั้งแต่แรกเร่งเก็บไม้เผาถ่านขายเพื่อนำรายได้เป็นค่าอาหาร และค่าเดินทางรักษาลูก เผยรายจ่ายสูงลิ่วกว่าเดือนละ 12,000 บาท
จากกรณีพบน้องแป้ง หรือเด็กหญิงชมพูนุช ภูนาเชียง อายุ 2 ขวบ 2 เดือน ชาว ต.คลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นผู้ป่วยติดเตียงมาตั้งแต่แรกเกิดหายใจเองไม่ได้ ต้องให้ออกซิเจนและอาหารเหลวทางสายยาง พ่อแม่ฮึดสู้ยื้อชีวิต วอนคนใจบุญช่วยเหลือ ล่าสุดเตรียมกู้เงินคนพิการจากพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ ซื้อไม้เผาถ่านขาย หาเงินเป็นค่ารักษาลูก ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 5 เมษายน 2564 ที่บริเวณท้ายหมู่บ้านหนองหล่ม หมู่ 10 ต.คลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นายต้น สีประเสริฐ อายุ 44 ปี และนางปูน้อย ภูนาเชียง อายุ 34 ปี พ่อและแม่ของน้องแป้งหรือเด็กหญิงชมพูนุช ภูนาเชียง อายุ 2 ขวบ 2 เดือน กำลังช่วยกันเก็บไม้และทำการเผาถ่าน โดยใช้ดินเทกลบกองไม้เป็นเตาเผาถ่าน เพื่อที่จะนำถ่านเร่ขายในหมู่บ้าน ทั้งนี้ เพื่อนำเงินรายได้จากการขายถ่าน มาเป็นค่าอาหาร และค่าเดินทางรักษาน้องป้อง เนื่องจากรายจ่ายต่อเดือนสูงลิ่วกว่าเดือนละ 12,000 บาท
นางปูน้อย ภูนาเชียง อายุ 34 ปี แม่น้องแป้ง กล่าวว่า ในส่วนอาการของน้องแป้งตั้งแต่แรกเกิดถึงปัจจุบัน ถือว่าทรงตัว คือยังเป็นผู้ป่วยติดตียง กล้ามเนื้ออ่อนแรง ช่วยตัวเองไม่ได้ ต้องให้อาหารเหลวทางสายยาง และให้ออกซิเจนช่วยในการหายใจตลอดเวลา ขณะที่ตนกับสามีก็พยายามกัดฟันสู้ และดูแลน้องแป้งอย่างเต็มที่ แต่สิ่งที่เดือดร้อนคือค่าใช้จ่าย ทั้งอาหารเหลว อาหารเสริม แพมเพิส ค่าเดินทาง ค่าเติมออกซิเจน ถุงใส่อาหาร สายต่อถุงอาหาร ไข่ อกไก่ ตับไก่ รวมค่าใช้จ่ายแต่ละสัปดาห์และรวมแต่ละเดือนกว่า 12,000 บาททีเดียว
นางปูน้อยกล่าวอีกว่า รายจ่ายทั้งหมด ได้จากนายต้นสามีไปหารับจ้างทั่วไป ซึ่งบางเดือนไม่พอ ต้องหาหยิบยืมญาติพี่น้องบ้างทำให้ได้รับความเดือดร้อน จึงได้หาทางออกโดยจะกู้ยืมเงินจากกองทุนส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการ จากสำนักง่านพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดังกล่าว สำหรับความต้องการของตนนั้น ไม่มีอะไรมาก นอกจากภาวนาให้น้องแป้งอยู่กับพ่อแม่ไปนานๆ โดยเฉพาะมีอาหารกินอย่างเพียงพอ ได้รับการบำบัดรักษาอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นความรู้สึกจากหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ ถึงแม้ลูกจะพิการ ฐานะจะยากจน ก็ไม่ย่อท้อ ขอเพียงแต่ได้อยู่ด้วยทุกวัน เห็นหน้ากันทุกวัน ก็ถือว่ามีความสุขแล้วสำหรับครอบครัวเรา
ด้านนายต้น สีประเสริฐ อายุ 44 ปี พ่อน้องแป้งกล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยไปรับจ้างทั่วไป เช่น เป็นคนงานก่อสร้าง ซึ่งพอจะมีรายได้จุนเจือครอบครัวและเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆของน้องแป้ง แต่พอเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้อาชีพรับจ้างดังกล่าวหยุดชะงัก ขาดรายได้ ลำพังรับจ้างทำนา ปลูกมัน ตัดอ้อย ก็ไม่เพียงพอ จึงลองมาเผาถ่านขาย โดยหาเก็บเศษไม้ตามหัวไร่ปลายนามาทดลองเผาถ่าน พอเริ่มมีความชำนาญก็ค่อยเผาถ่ายขาย โดยไปขอซื้อเศษไม้ทั่วไป และไม้ยูคาลิปตัสจากชาวบ้านมาเผาขาย ลงทุนครั้งละ 2,000 บาท พอได้กำไรมาเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาและค่าเดินทางไปเติมออกซิเจนให้น้องแป้ง
นายต้นกล่าวอีกว่าการเผาถ่าน เพื่อนำไปขายดังกล่าว ตนพยายามสร้างระบบควบคุมไม่ให้เกิดฝุ่นละออง ที่จะเป็นการสร้างมลพิษ จึงได้ออกมาทำเพิงเผาถ่านท้ายหมู่บ้าน เพื่อให้กระทบชุมชนน้อยที่สุด โดยก้อนถ่านที่ได้จะบรรจุถุงพลาสติกจำหน่ายในหมู่บ้าน 3 ถุง 100 บาท ทั้งนี้ ต้องผู้นำชุมชน และชาวบ้าน ที่อุดหนุนซื้อถ่านของตนไปใช้ในครัวเรือน เพื่อนำรายได้ทุกบาททุกสตางค์มาเป็นค่ารักษาและค่าใช้จ่ายต่างๆให้น้องแป้ง เพื่อที่น้องแป้งจะอยู่กับพ่อแม่ไปนานๆที่สุดเท่าที่จะทำได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้มีจิตศรัทธา มีความประสงค์ให้ความช่วยเหลือน้องแป้ง สามารถติดต่อที่หมายเลขโทรศัพท์ 09-3318-1563 นางปูน้อย และ 0611174772 นายต้น