วันที่ 3 เม.ย.64 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณี นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐระบุจะไม่รับประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เกินว่าพรรคพลังประชารัฐเสนอว่า นายไพบูลย์ พูดมาทั้งหมดนี้ได้รับความเห็นชอบจากส.ส.พรรคพลังประชารัฐหรือยัง เท่าที่ติดตามไม่มีส.ส.คนไหนออกมาพูดเช่นนี้ ยังไม่เห็นมีมติของพรรคพลังประชารัฐในเรื่องนี้ออกมา การโหวตประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญในซีกส.ส.ฝ่ายรัฐบาล และส.ว.เองยังไม่มีเอกภาพ อย่าไปมองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเอาแต่ใจตัวเองได้ ที่สำคัญนายไพบูลย์ ยังต้องไปพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลให้ชัดเจนก่อนว่าเอาด้วยหรือไม่ การออกมาบอกว่าถ้ามีเนื้อหาเกินจากที่ตัวเองเสนอจะไม่เอาด้วยเช่นนี้ไม่ถือเป็นนักประชาธิปไตย
ที่ผ่านมานายไพบูลย์ เวลาแสดงความคิดเห็นอะไรก็คงไม่คงเส้นคงวากลับไปกลับมาตลอด จึงเห็นว่าการจะมัดมือชกใครเช่นนี้ไปฟังเสียงพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเองก่อนดีกว่า ที่สำคัญเงื่อนไขอย่างหนึ่งของการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องได้รับความเห็นชอบจากเสียงฝ่ายค้่านไม่น้อยกว่า 20% ถึงจะแก้ได้ไม่ใช่พวกมากลากไปได้ทั้งหมด ดังนั้นการออกมาพูดเช่นนี้ถือว่าไม่จริงใจ เหมือนไม่ต้องการแก้รัฐธรรมนูญ ถ้าไม่อยากแก้ขอให้พูดกันตรงๆดีกว่ามาแสดงละครตบตาประชาชนเพื่อลดแรงปะทะให้กับรัฐบาล
เมื่อถามถึงกรณีที่นายไพบูลเน้นย้ำไม่แตะอำนาจ ส.ว. นายประเสริฐ ตอบว่า การพูดเช่นนี้นายไพบูลย์ พูดข้ามหัวประชาชนหรือไม่ ขณะนี้เสียงเรียกร้องของประชาชนที่ดังที่สุดเกี่ยวกับประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญคือการลดอำนาจส.ว.ในการเลือกนายกฯ เพื่อให้นายกฯมาจากเสียงประชาชนอย่างแท้จริง ไม่เป็นการสืบทอดอำนาจตามที่คสช.วางกลไกไว้แต่ต้น ไม่เห็นด้วยกับการคงอำนาจส.ว.ให้เลือกนายกฯ และจากการพูดคุยกับส.ส.ทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้าน หลายคนก็เห็นตรงกันว่านายกฯควรมาจากเสียงของประชาชน
เมื่อถามว่าในส่วนของพรรคร่วมฝ่ายค้านจะมีการยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า จากที่ได้หารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านก็เห็นตรงกันว่าจะมีการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรตรา แต่ขณะนี้ยังไม่ได้หารือกันอย่างเป็นทางการคิดว่าเมื่อมีการประชุมร่วมรัฐสภาพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประชามติ พรรคร่วมฝ่ายค้านคงได้หยิบยกเรื่องนี้มาพูดคุยกัน เพื่อให้เกิดความรอบคอบและตรงกับความต้องการของประชาชนมากที่สุด