รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางไปตรวจจุดช่องทางบ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน สั่งให้ทุกหน่วยงานดูแลผู้ลี้ภัยด้วยมนุษยธรรม ขณะที่องค์กรช่วยกะเหรี่ยงยื่นหนังสือต่ออนุทิน ร้องขออำนวยความสะดวกในการส่งอาหารให้ผู้ลี้ภัยในพม่า หลังเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ปฏิเสธและห้ามส่งของให้แก้ผู้ลี้ภัย
เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2564 เวลา 15.30 น.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ้ดินทางไปที่บ้านแม่สามแลบ หมู่ 1 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อรับฟังการบรรยายสรุป เกี่ยวกับผู้ลี้ภัยจากพม่า ที่หลบหนีภัยสงคราม เข้ามาในไทย โดยได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เร่งช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยง ที่หนีเข้ามาในไทย โดยเน้นให้ตรวจโรคโควิด 19 ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขได้ส่งรถตรวจฯ มาไว้ที่โรงพยาบาลแม่สะเรียง สำหรับผู้ลี้ภัยหากเข้ามาให้จัดสถานที่รองรับและควบคุมอย่างใกล้ชิด
นายไชยา บิโข่ อายุ 48 ปี รองประธานเครือข่ายกะเหรี่ยงแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าทางเครือข่ายได้เปิดรับบริจาคสิ่งของและอาหารเพิ่อส่งไปช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในพม่า ที่ถูกผลักดันกลับไปอาศัยอยู่ตามแนวแม่น้ำสาละวิน ด้านตรงข้ามบ้านแม่สามแลบฯ แต่เมื่อนำสิ่งของมาถึงบ้านแม่สามแลบ ทางเจ้าหน้าที่ในพื้นที่กลับสั่งห้ามนำสิ่งของส่งไปช่วยเหลือผู้ลี้ภัย ทั้งที่ผู้ลี้ภัยเหล่านั้นกำลังตกอยู่ในสภาพลพบากและขาดแคลนอาการอย่างหนัก เนื่องจากหนีตายจากการโจมตีทางอากาศของทหารพม่า และไม่ได้มีการเตรียมเสบียงอาหารล่วงหน้า
ในส่วนของผู้ลี้ภัยช่วยกะเหรี่ยง จากข้อมูลของเครือข่ายชาวกะเหรี่ยงแห่งประเทศไทย มีผู้ลี้ภัยที่หลบซ่อนตัวอยู่ตามแนวแม่น้ำสาละวินพื้นที่ตรงข้าม อ.สบเมย และ อ.แม่สะเรียง มีจำนวน 7,000 คน และอีกกว่า 10,000 คนกำลังเดินทางมุ่งหน้ามายังริมฝั่งแม่น้ำสาละวินที่อยู่ตรงข้ามไทย เพื่อหลบหนีการโจมตีของทหารพม่า