ตำรวจกาฬสินธุ์ จับทีมฆาตกรรมสองสาวชาวลาว ซึ่งถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมก่อนนำมาหมกป่า แฉเป็นฝีมือซุ้ม ช.ช้างดำ มี “ไอ้เอี้ยง”หัวหน้าซุ้ม รับงานตรง “เจ้นาง” ขาใหญ่ใน ไซภูทอง แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว รับค่าจ้างยิงหัวละสองแสนทุกกรณี ระบุสาเหตุแค้นส่วนตัวเพราะหนึ่งไปผู้ตายไปกิ๊กกับสามีขาใหญ่ ขณะที่ ตัวแทนกงสุลลาวพอใจชื่นชมตำรวจไทยทำงานได้สุดยอด ความคืบหน้าพบศพ 2 สาวถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม ก่อนจะนำศพมาทิ้งไว้ภายในป่าละเมาะระหว่างหมู่บ้านกุดหว้า-หนองห้าง ในเขต ต.หนองห้าง อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ โดยจากการชันสูตรของเจ้าหน้าที่พบว่าถูกอาวุธปืนขนาด.38 ยิงเข้าที่ศีรษะเสียชีวิตทั้ง 2 ราย และมีญาติเดินทางเข้ามายืนยันกับตำรวจว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน มีชื่อจริงคือนางกอง พมสาลี อายุ 40 ปี และนางจันสะหมอน เสนสักดา อายุ 26 ปี ซึ่งทั้งสองเป็นชาวเมืองไซภูทอง แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 5 กันยายน 2559 ที่ห้องประชุม สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ ผบช.ภ.4 นายวินัย วิทยานุกูล ผวจ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ประสิทธิ์ จำปาทุม ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ พ.ต.ท.ศักดินันท์ มูลมณี รองผกก.สส.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.ท.อุทัย เพ็งธรรม รองผกก.สส.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.ท.ชัชชัย ไหมวันทา สว.สส.ภ.จว.กาฬสินธุ์ และนายสอนเพชร เพียรบุพผา กงสุลสปป.ลาว ณ จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกองกับกับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ชุดสืบสวนสภ.กุฉินารายณ์ และชุดสืบสวนภาค 4 ร่วมกันผลการจับกุมคดีฆาตกรรมหญิงสาวสัญชาติลาว 2 ศพ โดยล่าสุดตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ร่วมกันลงมือฆ่าตามหมายจับของศาล จ.กาฬสินธุ์รวม 5 ราย ประกอบด้วย 1.นายเฉลิมพงษ์ ฉายไสว หรือ เป้ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 235 ม.7 อ.เมือง จ.มหาสารคาม 2.นายโอกาศ ตั้งใจมั่นดีกุล หรือเอี้ยง อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 ม.7 อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ 3.นายธงชัย ทีจันทร์มาตย์ หรือ ทน อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 ม.9 ต.ท่าตูม อ.เมือง จ.มหาสารคาม 4.นายปุณณภพ ภูศิลาแทน หรือ สัน อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 183 ม.3 ต.ยางตลาด อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ และนางกุลนันท์ แสงโสภณ หรือ เอ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 300/60 ม.2 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ซึ่งผลการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนมาแถลง แต่เป็นมีเพียงการนำแผ่นช๊าตมาแสดงแผนการลงมือฆ่าเท่านั้น และจะนำตัวไปทำแผนภายหลังการสรุปผลการจับกุม โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวถ่ายภาพ ​พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 ก.ย.2559 เวลาประมาณ 19.00 น. มีผู้พบศพหญิง 2 ศพ นอนตายเคียงคู่กัน ที่บริเวณป่าละเมาะข้างโกดังเก็บปุ๋ย หมู่ 11 ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ จว.กาฬสินธุ์ จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายทั้งสอง คือ นางจันสะหมอน หรืออี๊ด เสนสักดา อายุ 26 ปี และนางกอง พมมาลี อายุ 40 ปี เป็นคนสัญชาติลาว ภูมิลำเนาอยู่แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว มีบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะ คาดว่าเสียชีวิตมาจากที่อื่น และนำมาทิ้งที่ที่พบศพ ซึ่งคดีนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งเร่งรัดให้ตำรวจภูธรภาค 4 ดำเนินการสืบสวนจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญประชาชน มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และรวมถึงเสียบรรยากาศการท่องเที่ยวของประเทศไทยอีกด้วย ดังนั้น​จากการร่วมกันทำงานของชุดสืบสวนคลี่คลายคดี ประกอบด้วย ชุดสืบสวน สภ.กุฉินารายณ์, กก.สส.ภ.จว.กาฬสินธุ์ และ บก.สส.ภ.4 ทราบว่าผู้ตายทั้งสองได้เดินทางเข้าประเทศไทยผ่านด่านพรมแดน จ.มุกดาหาร เมื่อวันที่ 28 ส.ค.2559 และกลุ่มคนร้ายซึ่งเป็นชาวไทย ได้ล่อลวงผู้ตายขึ้นรถยนต์ 2 คัน นำตัวมาที่บริเวณถนนเลี่ยงเมืองมุกดาหาร - ดอนตาล แล้วใช้อาวุธปืนจ่อยิงผู้ตายทั้งสองภายในรถจนเสียชีวิต แล้วนำศพมาทิ้งที่เกิดเหตุ แล้วแยกย้ายกันหลบหนีไป ต่อมาชุดสืบสวนสามารถจับกุมตัวกลุ่มคนร้ายได้ทั้งหมด จำนวน 5 คน เป็นชาย 4 คน หญิง 1 คน ตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ 2 คัน อาวุธปืน 1 กระบอก โดยนำตัวมาดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและซ่อนเร้น ย้าย ทำลายศพเพื่อปิดบังเหตุแห่งการตาย” นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ ดำเนินคดีต่อไป ทั้งนี้กลุ่มผู้ต้องหารวม 4 คน ได้ให้การรับสารภาพ ส่วนนายโอกาส ตั้งใจมั่นดีกุล หรือเอี้ยง ซึ่งถูกให้การซัดทอดว่าเป็นผู้ลงมือยิงยังคงให้การภาคเสธ โดยกลุ่มผู้ต้องหาให้การว่า กลุ่มของตนมีชื่อแก๊งว่า ช.ช้างดำ ซึ่งได้รับการว่าจ้างจาก “เจ้นาง” ซึ่งเป็นหญิงสัญชาติลาวเป็นขาใหญ่ใน ตำบลไซภูทอง แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว เป็นจำนวนเงิน 400,000 บาท เพื่อให้ฆ่านางจันสะหมอน และ นางกอง โดยได้ไปเปิดห้องพักในจังหวัดมุกดาหารรอจนกว่าผู้ตายเดินทางข้ามฝั่งมายังตลาดสดเทศบาล 1 และได้นำตัวทั้ง 2 คน ขึ้นรถเก๋งยี่ห้อนิสสันมายังถนนเลี่ยงเมือง จากนั้นนายโอกาศ ตั้งใจมั่นดีกุล หรือเอี้ยง ก็ชักปืนออกมาจ่อยิงหัวทั้งสองคนภายในรถทันที แล้วนำศพยัดใส่ท้ายท้ายรถพาไปทิ้งในป่ายังอ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ส่วนสาเหตุเชื่อว่าเกิดจากความแค้นส่วนตัวในเรื่องชูสาว ที่ทราบว่า “เจ้นาง” โกรธแค้นผู้ตาย ซึ่งแอบไปกิ๊กกับสามี ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้เร่งรัดติดตามตัวผู้จ้างวาน โดยดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป ด้านนายสอนเพชร เพียรบุพผา ตัวแทนกงสุลสปป.ลาว ณ จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ในนามตัวแทนญาติพี่น้องผู้เสียชีวิตขอขอบคุณตำรวจไทย โดยเฉพาะตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจ.กาฬสินธุ์ ชุดสืบสวนสภ.กุฉินารายณ์ และชุดสืบสวนภาค 4 ที่ร่วมกันทำงานติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้โดยเร็ว ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นี้คนลาวก็ตกใจ แต่หลังจากพบศพเพียงไม่กี่วันตำรวจไทยก็สามารถจับได้ต้องขอขวบคุณตำรวจทุกนายที่ช่วยเหลือจับกุมได้สุดยอด ซึ่งเรื่องนี้จะกลับไปรายงาน กงสุล สปป.ลาว ต่อไป ทั้งนี้ในส่วน กงศุลสปป.ลาว ก็พร้อมให้การช่วยเหลือการนำศพกลับภูมิลำเนาด้วย อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดญาติของผู้ตายทั้งสองคนได้เดินทางมาจุดธูปบริเวณป่าที่พบศพเพื่อเชิญดวงวิญาณกลับและรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลบ้านเกิดแล้ว โดยได้รับการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพไปส่งยังด่านสะพาน จ.มุกดาหาร