ผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยง ที่ได้รับบาดเจ็บ จากการโจมตีทางอากาศของ ทหารพม่า วิงวอนให้หยุดโจมตีพลเรือน อยากให้สถานการณ์สงบโดยเร็ว จะได้กลับสู่บ้านเรือนของตนในพม่า เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2564 ผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยง เป็นหญิง อายุ 18 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด ของการโจมตีด้วยเครื่องบินของทหารพม่า เมื่อคืนวันที่ 27 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ขณะที่นั่งอยู่ในบ้าน เวลาประมาณ 20.00 น.ได้ยิน้สรยงเครื่องบินบนท้องฟ้า จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังสนั่น จึงได้พากันวิ่งหนีออกจากบ้านเรือน และวิ่งไปหลบในป่าข้างหมู่บ้าน พอเสียงเครื่องบินสงบ จึงได้พากันออกมาจากป่าวิ่งไปที่บ้านของตน ต่อมาพอเวลาประมาณ 21.00 น.พวกตนได้ยินเสียงเครื่องบินดังมาอีก จึงได้พากันวิ่งหนีเข้าป่าอีกครั้ง จากนั้นได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นใกล้ตัวและสลบไป มารู้สึกตัวในตอนเช้าและมีอาการเจ็บบริเวณหน้าอก กับมีบาดแผลที่ใบหน้า จึงได้พากันหนีเข้าสู่ไทย โดยใช้เวลา 2 วัน จากนั้นจึงได้รับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล เรื่องที่เกิดขึ้นตนขอวิงวอน ให้ทหารพม่า ยุติการโจมตีต่อพลเรือน เนื่องจากมีความหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ในวันที่ถูกโจมตีตนฟื้นขึ้นมาพบกับศพเด็กอายุไม่ถึง 10 ขวบ เสียชีวิตต่อหน้าของตนเอง อย่างไรก็ตามเมื่อถูกสอบถามว่า เมื่อได้รับการรักษาหายดีแล้ว พวกเขาตอบในทันทีว่า อยากกลับบ้าน และอยากให้สถานการณ์สงบโดยเร็ว ทางด้าน นายแพทย์จักกรี คมสาคร ผอ.โรงพยาบาลสบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ทางโรงพยาบาล ได้มีการเตรียมความพร้อม ในการรับมือผู้ป่วยในพม่า ที่ส่งมารักษาตัวในไทย ทั้งนี้เพื่อมนุษยธรรม ซึ่งแพทย์ทุกคนไม่สามารถปฏิเสธได้ อย่างไรก็ตาม หากในพม่าจะไม่มีการสู้รบกัน จะเป็นสิ่งที่ดีมาก