เมื่อวันที่ 30 มี.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เลขาธิการครม.ได้แจ้งถึงการประชุมรัฐสภาสมัยวิษามัญ วันที่ 7-8 เม.ย. เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยเรื่องการออกเสียงประชามติ โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวในที่ประชุมว่า ขอความร่วมมือทุกพรรคให้เข้าร่วมประชุม และเน้นย้ำว่า กฎหมายสำคัญอย่าให้พลาด ซึ่งตนพร้อมสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล ช่วยกันทำให้ได้ และได้เน้นย้ำในที่ประชุมครม.ว่า กรณีใครเสนอแต่งตั้งโยกย้ายขอให้เช็คประวัติให้รอบครอบอย่าให้เสียหาย
นอก จากนี้ที่ประชุมครม.ยังได้มีการหารือถึงการจัดเก็บรายได้ของประเทศเป็นพิเศษ โดยกระทรวงการคลังรายงานภาพรวมเศรษฐกิจที่เก็บไม่ได้ตามเป้าเมื่อเทียบกับต่างประเทศ และงบประมาณที่มีอยู่ก็จำเป็นต้องใช้แก้ปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งปัจจุบันนี้จัดเก็บอยู่ร้อยละ 7
โดยนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้ความเห็นว่า การขึ้นภาษี ขอให้พิจารณาอย่างตรงไปตรงมา อย่านำไปเป็นประเด็นการเมือง เพราะใครมาก็กลัวประชาชนคัดค้าน อย่างในต่างประเทศเขาเลือกจะขึ้นภาษีในช่วงโควิด-19 เพื่อนำรายได้ไปเพิ่มสวัสดิการให้ประชาชน ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ได้เห็นด้วยกับแนวคิดของนายจุติ
ขณะที่พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้ความเห็นว่า ประเทศไทยไม่มีการขึ้นภาษีมานานแล้ว จึงควรไปศึกษาให้รอบคอบก่อน ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม สอบถามว่า ต่างประเทศที่พูดถึงเป็นประเทศเพื่อนบ้านเราหรือประเทศไหน โดยที่ประชุมไม่มีข้อสรุปโดยให้กระทรวงการคลังไปศึกษารายละเอียดแล้วให้เสนอกลับเข้าสู่ที่ประชุมครม.อีกครั้ง