เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 28 มีนาคม ที่ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 เซ็นทรัลนครราชสีมา นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พร้อมนายกรกต ธำรงวงศ์สวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายศารุมภ์ โหม่งสูงเนิน พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันเปิดงาน “แฟรนไชน์สร้างอาชีพจังหวัดนครราชสีมา ” ภายในงานนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่รู้จัก จำนวน 40 ราย มานำเสนอรูปแบบธุรกิจ สินค้าและข้อแนะนำให้ประชาชนผู้สนใจเลือกลงทุนให้เหมาะสมกับกำลังทรัพย์ ท่ามกลางประชาชนสนใจเข้าร่วมอย่างคึกคัก โดยงานกำหนดจัดตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม
นายทศพล ฯ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า หลายเดือนที่ผ่านมาวิกฤตโรคระบาด โควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกซบเซา แม้แต่ประเทศไทยเองก็หลีกไม่พ้น ผู้ประกอบการบางรายปิดตัวและเลิกกิจการ เนื่องจากไม่สามารถแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น รายได้ถดถอยลง เมื่อสถานประกอบการปิดตัวลง พนักงานต้องถูกเลิกจ้างโดยได้รับเงินชดเชยจากนายจ้าง ซึ่งถือเป็นเงินก้อนสำคัญใช้ในการประกอบอาชีพเพื่อดำรงชีพของตนเองและครอบครัวต่อไปในอนาคตเพื่อเร่งช่วยเหลือเศรษฐกิจในระดับฐานราก ช่วยคนตกงานและคนที่ต้องการมีอาชีพ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ให้ความช่วยเหลือพี่น้องคนไทยให้มีธุรกิจเป็นของตนเองผ่านการลงทุนทำธุรกิจแฟรนไชส์เพราะสามารถทำเป็นอาชีพ เพิ่มรายได้เพื่อดูแลคนในครอบครัว และมีส่วนสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานราก โดยตั้งเป้าหมายว่าในปี 2564 สามารถสร้างเครือข่ายธุรกิจแฟรนไชส์มากกว่า 10,000 ราย ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ว่างงานและผู้บริโภค มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องสามารถดึงรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้มาก เพราะเจ้าของมีการพัฒนาธุรกิจของตนอย่างต่อเนื่องจนประสบความสำเร็จ ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคแล้วในระดับหนึ่ง และผู้ซื้อแฟรนไชส์ ได้รับการถ่ายทอดภูมิปัญญาด้านการผลิต ความรู้ความเข้าใจด้านการตลาด และระบบบริหารจัดการที่เป็นรูปแบบเฉพาะของผลิตภัณฑ์นั้นๆทำให้ผู้ซื้อได้รีบองค์ความรู้ที่ครบถ้วน เป็นหลักประกันได้ในระดับหนึ่งว่ามีโอกาสประสบความสำเร็จ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์และผ่านการพัฒนาจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้วจำนวน 351 ธุรกิจ มีขนาดการลงทุนตั้งแต่หลักหมื่นบาทเป็นต้นไป
นายทศพล ฯ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า หลายเดือนที่ผ่านมาวิกฤตโรคระบาด โควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกซบเซา แม้แต่ประเทศไทยเองก็หลีกไม่พ้น ผู้ประกอบการบางรายปิดตัวและเลิกกิจการ เนื่องจากไม่สามารถแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น รายได้ถดถอยลง เมื่อสถานประกอบการปิดตัวลง พนักงานต้องถูกเลิกจ้างโดยได้รับเงินชดเชยจากนายจ้าง ซึ่งถือเป็นเงินก้อนสำคัญใช้ในการประกอบอาชีพเพื่อดำรงชีพของตนเองและครอบครัวต่อไปในอนาคตเพื่อเร่งช่วยเหลือเศรษฐกิจในระดับฐานราก ช่วยคนตกงานและคนที่ต้องการมีอาชีพ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ให้ความช่วยเหลือพี่น้องคนไทยให้มีธุรกิจเป็นของตนเองผ่านการลงทุนทำธุรกิจแฟรนไชส์เพราะสามารถทำเป็นอาชีพ เพิ่มรายได้เพื่อดูแลคนในครอบครัว และมีส่วนสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานราก โดยตั้งเป้าหมายว่าในปี 2564 สามารถสร้างเครือข่ายธุรกิจแฟรนไชส์มากกว่า 10,000 ราย ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ว่างงานและผู้บริโภค มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องสามารถดึงรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้มาก เพราะเจ้าของมีการพัฒนาธุรกิจของตนอย่างต่อเนื่องจนประสบความสำเร็จ ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคแล้วในระดับหนึ่ง และผู้ซื้อแฟรนไชส์ ได้รับการถ่ายทอดภูมิปัญญาด้านการผลิต ความรู้ความเข้าใจด้านการตลาด และระบบบริหารจัดการที่เป็นรูปแบบเฉพาะของผลิตภัณฑ์นั้นๆทำให้ผู้ซื้อได้รีบองค์ความรู้ที่ครบถ้วน เป็นหลักประกันได้ในระดับหนึ่งว่ามีโอกาสประสบความสำเร็จ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์และผ่านการพัฒนาจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้วจำนวน 351 ธุรกิจ มีขนาดการลงทุนตั้งแต่หลักหมื่นบาทเป็นต้นไป