เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2564 ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวิฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย หม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน นางสาวอำพันธ์ ธุววิทย์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน และคณะ เยี่ยมชมการดำเนินงานของมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ ประกอบด้วย สายด่วนคนพิการ 1479 ศูนย์พัฒนาธุรกิจเพื่อสังคม โรงเรียนพิเศษคุณพ่อเรย์ ศูนย์แฟลชโฮม สาขาโรงเรียนเด็กพิเศษคุณพ่อเรย์ ห้องพักและศูนย์ประชุมพระมหาไถ่ และวิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ พัทยา ให้กำลังใจแก่นักเรียน นักศึกษา บุคลากรของมูลนิธิฯ รวมถึงเปิดศูนย์คอลเซ็นเตอร์ไทวัสดุ ณ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ จังหวัดชลบุรี ศาสตราจารย์ นฤมล กล่าวว่า มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการเป็นองค์กรชั้นนำด้านคนพิการระดับสากล มีประสบการณ์ในการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการสู่การมีงานทำที่มีคุณค่า มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในด้านการจัดการศึกษา การฝึกอาชีพ บริการจัดหางาน รณรงค์ด้านการเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการของคนพิการ นอกจากนี้ยังมีการให้บริการสายด่วนคนพิการประชารัฐ การผลิตรายการโทรทัศน์ กิจกรรมด้านสื่อและการประชาสัมพันธ์ สะท้อนให้เห็นถึงการเปิดโอกาสให้คนพิการได้มีบทบาทและมีส่วนร่วมในสังคมมากยิ่งขึ้น ทำให้เกิดการยอมรับในศักยภาพของคนพิการ อันเกิดจากความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมที่ร่วมผลักดันและขับเคลื่อนการทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง รมช.แรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิดศูนย์คอลเซ็นเตอร์ไทวัสดุเพื่อคนพิการวันนี้ เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสนับสนุนการส่งเสริมการมีงานทำของคนพิการ ยกระดับการทำงาน รวมถึงเป็นการประสานความร่วมมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการสู่การมีงานทำทีมีคุณค่าของคนพิการอย่างยั่งยืน ซึ่งกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการฝึกทักษะอาชีพให้คนพิการ เพื่อนำไปสู่การยอมรับของสังคม และมีความปลอดภัยในการดำเนินชีวิตอย่างยั่งยืน ด้วยการพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน และเหมาะสมต่อกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมทุกกลุ่ม เพื่อให้มีทักษะ สามารถนำไปประกอบอาชีพ ให้มีงานทำ มีรายได้ที่ยั่งยืนต่อไป “กลุ่มคนพิการเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญและมีศักยภาพเพียงพอต่อการเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ ขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้คนพิการได้มีโอกาสเข้าถึงทุกอาชีพ เพื่อสะท้อนศักยภาพของคนพิการให้เกิดการยอมรับในสังคมเทียบเท่ากับคนปกติ” รมช.แรงงาน กล่าวทิ้งท้าย