จากกรณีที่ปรากฏข้อมูลข่าวสารทางสื่อมวลชน เรื่องการรับโอนข้าราชการทหารเรือมาเป็นข้าราชการตำรวจในสังกัด สตม. จำนวน 41 ราย จนเป็นประเด็นที่กล่าวถึงอย่างแพร่หลายในโลกโซเชียล ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 26 มี.ค. ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรุงเทพมหานคร พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ได้ทำหนังสือชี้แจงต่อสื่อมวลชน ว่า เมื่อปี พ.ศ.2561 สตม. ได้รับการสนับสนุนเรือยนต์ตรวจการณ์ จำนวน 27 ลำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพงานตรวจคนเข้าเมืองให้กับหน่วยงานในสังกัด บก.ตม.ที่มีด่าน ตม.ทางน้ำ สำหรับใช้ในภารกิจด้านการสกัดกั้น ป้องกัน
ปราบปราม และสืบสวนขยายผลการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะการใช้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายในการประมง การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และเพิ่มความเข้มในการตรวจบุคคลและพาหนะการอำนวยความสะดวกในการบริการคนเข้าเมือง ตลอดจนช่วยสนับสนุนภารกิจการดูแลรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและคนต่างชาติ รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยทางน้ำ
ต่อมาได้มีมติอนุมัติการกำหนดตำแหน่งเจ้าหน้าที่ประจำเรือยนต์ตรวจการณ์ ระดับตำแหน่ง ผบ.หมู่ - รอง สว. ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามทางน้ำ กลุ่มสายงานป้องกันปราบปรามให้กับ ตม.จว/ด่าน ตม.ในสังกัด ที่มีด่านทางน้ำ ทาง สตม.จึงมีบันทึกเสนอ ตร.ขออนุมัติรับโอนข้าราชการทหารในสังกัด ทร. มารับราชการเป็นข้าราชการตำรวจในสังกัด เพื่อทำหน้าที่ประจำเรือยนต์ตรวจการณ์ เนื่องจาก สตม.ประสบปัญหาขาดแคลนกำลังพลที่มีความรู้ความชำนาญในการขับเรือและซ่อมบำรุงเครื่องยนต์และอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมทั้งกำลังพลที่มีประสบการณ์ในด้านการปฏิบัติการทางลำน้ำและทางทะเลในพื้นที่ต่าง ๆ หากได้รับการสนับสนุนกำลังพลในส่วนนี้ ซึ่งมีประสบการณ์ในการทำงานส่วนใหญ่ไม่น้อยกว่า 40 ปีขึ้นไป มีความพร้อมในการปฏิบัติงานและมีใบอนุญาตนายท้ายเรือตามที่กฎหมายกำหนด นอกจากจะช่วยให้ประหยัดงบประมาณในการจัดการฝึกอบรมและจัดทำใบอนุญาตนายท้ายเรือเพิ่มเติมให้แก่ข้าราชการตำรวจแล้ว ยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันปราบปรามการกระทำผิดตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง และสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายผ่านเส้นทางลำน้ำและทางทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะ
เป็นการสนองตอบต่อนโยบายด้านความมั่นคงของรัฐบาลและ ตร. ได้เป็นอย่างดี
ต่อมาได้มีบันทึกลงวันที่ 4 พ.ค.61 อนุมัติให้ สตม. ดำเนินการทาบทามการรับโอนข้าราชการทหารไปยัง ทร. เนื่องจากบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางด้านการปฏิบัติการทางน้ำ ตร. ยังไม่สามารถผลิตเองได้ สตม. จึงได้ประสานทางกองทัพเรือเพื่อขอรับโอนข้าราชการทหารเรือซึ่งต่อมา ได้รับอนุมัติจาก ผบ.ทร.ให้โอนได้ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่หน่วยรับโอนลงคำสั่งรับโอน แต่ไม่ก่อนวันที่กองทัพเรืออนุมัติ (ก.ค.63) และ ตร.ได้พิจารณาเรื่องที่ สตม. เสนอขอรับโอน และมีบันทึกลงวันที่ 15 มี.ค.64 อนุมัติให้ สตม.รับโอนข้าราชการทหารเรือที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ และเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นข้าราชการตำรวจในสังกัด สตม. จำนวนทั้งสิ้น 41 ราย จนกระทั่งมีคำสั่งโอนย้ายเเละเป็นเรื่องดราม่าเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางในโลกโซเชียล.