นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า การดำเนินโครงการคนละครึ่งเฟส 3 หลังจากโครงการเฟส 2 จะสิ้นสุดระยะเวลาโครงการในวันที่ 31 มี.ค.นี้ขอเวลาประเมินผลก่อน อยากจะจัดการเรื่องร้านค้าทุจริตให้เรียบร้อยก่อน โดยตอนนี้มีคนเอาเปรียบหรือร้านค้าที่ถูกดำเนินคดีและถูกจับตาจากภาครัฐที่ส่อจะเกิดการทุจริตอยู่จำนวนหลายร้อยร้านค้า ซึ่งในเรื่องนี้กระทรวงการคลังอยากจะหาวิธีทำให้รัดกุมมากขึ้นก่อนจะเปิดโครงการคนละครึ่งในระยะที่ 3 ต่อไป โดยปัจจุบันรัฐบาลมีการดำเนินโครงการ ม 33เรารักกัน และโครงการเราชนะอยู่ ซึ่งก็เป็นโครงการที่สนับสนุนให้ประชาชนในระดับฐานรากยังมีวงเงินสำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ จึงยังไม่ต้องเร่งรีบในการพิจารณาโครงการคนละครึ่ง เฟส3 “เคยพูดหลายครั้งแล้ว และวันนี้ยังจะพูดเหมือนเดิมว่า โครงการคนละครึ่งเฟส 3 ต้องขอเวลาระยะหนึ่ง ขอเวลาในการประเมินเพราะมีการเอาเปรียบประชาชนต้องไปดูว่าจะแก้ไขส่วนนี้อย่างไร” ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังต้องประเมินดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจ ตัวเลขการบริโภคการใช้จ่ายไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ว่ามีการฟื้นตัวมากน้อยเพียงใด อีกทั้งขณะนี้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆออกมา อาทิ คนละครึ่ง ,เราเที่ยวด้วยกัน,เราชนะ โดยรัฐบาลจะมีการประเมินผลแยกแต่ละโครงการ เนื่องจากบางโครงการมีวิธีการใช้เงินต่างกัน และประเมินผลลัพธ์รวมทุกโครงการด้วยว่าส่งผลต่อภาคเศรษฐกิจมากน้อยเพียงใด ส่วนมาตรเยียวยาข้าราชการผ่านโครงการเราผูกพันที่เป็นการเยียวยาข้าราชการนั้นเป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีระบุว่า ต้องดูรายละเอียดเพิ่มเติมก่อนว่าจะทำอย่างไรได้ โดยต้องดูแลประชาชนให้มากที่สุดก่อน