NOBLE ส่งซิกธุรกิจอสังหาฯ สัญญาณฟื้น ลุยเปิดโครงการใหม่ 2 ทำเลทอง บางนา-ทองหล่อ เจาะตลาดลูกค้าไทย-ต่างประเทศ หนุนเป้าหมายรายได้ปีนี้แตะระดับ 11,000 ล้านบาท และยอดขาย (pre-sale) 16,000 ล้านบาท โดยการเปิดโครงการใหม่จำนวน 11 โครงการ มูลค่ารวม 45,100 ล้านบาท ปูทางก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทยติดอันดับ TOP 5 ภายใน 3 ปีข้างหน้า ด้วยฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ประกาศปันผลงวดครึ่งปีหลัง 63 ในอัตรา 0.50 บาทต่อหุ้น เตรียมแขวน XD วันที่ 10 พ.ค.นี้
นายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการที่อยู่อาศัยในทำเลชั้นนำของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในโค้งแรกมีการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า โดยมั่นใจว่าปีนี้ทั้งปีจะสามารถทำรายได้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 11,000 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดขาย(pre-sale) จำนวน 16,000 ล้านบาท เพื่อก้าวขึ้นไปเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทยติดอันดับ TOP 5 ภายใน 3 ปีข้างหน้า โดยมียอด Backlog ณ สิ้นสุดปี 2563 อยู่ที่ 12,805 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถทยอยรับรู้ภายใน 3 ปีข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันพร้อมเดินหน้าเปิดโครงการอีก 11 โครงการ มูลค่ารวม 45,100 ล้านบาท ซึ่งในไตรมาส 1/2564 ได้ทยอยเปิดโครงการแล้ว 2 โครงการได้แก่ โครงการโนเบิล ฟอร์ม ทองหล่อ (NOBLE FORM THONGLOR) มูลค่ารวมกว่า 5,400 ล้านบาท พร้อมชูเด่นด้านทำเลศักยภาพใจกลางถนนทองหล่อ ภายใต้แนวคิด "ONE FORM หนึ่งฟอร์ม ของชีวิตที่ได้ทุกสิ่ง" เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยโครงการนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2567 และโครงการนิว โนเบิล เซ็นเตอร์ บางนา มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียมแบบ Low-Riseสูง 7 ชั้น เป็นอาคารพักอาศัยจำนวน 2 อาคาร จำนวน 204 ยูนิตและมีอีก 1 อาคารสำหรับ Facilities โครงการยังจัดคงเต็มในเรื่อง Facilities ตามสไตล์ของแบรนด์ NUE โดยจัดพื้นที่รองรับกิจกรรมสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ บนทำเลศักยภาพใจกลางย่านบางนา และเพียง 10 ก้าวถึงเซ็นทรัล บางนา ตัวโครงการยังทำราคาแบบจับต้องได้ เพื่อตอบสนองกับกลุ่มลูกค้าที่มองหาที่อยู่อาศัยในย่านนี้ โดยโครงการนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2565
“ถือเป็นการตอกย้ำความแข็งแกร่งของ NOBLE เพียงแค่ 2 เดือนกว่าได้เปิดโครงการแล้ว 2 แห่งและกระแสตอบรับจากโครงการมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความโดดเด่นของทำเล และการออกแบบที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัวทั้งชาวไทย และต่างชาติในแต่ละทำเล”
นายอรรถวิทย์ เฉลิมทรัพยากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน “Noble” กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับความแข็งแกร่งทางฐานะทางการเงินในปี 2564 ว่า บริษัทประสบความสำเร็จจากการออกหุ้นกู้ทั้งสิ้น 1,800 ล้านบาท โดยเม็ดเงินที่ได้บริษัทมีแผนจะนำเงินส่วนเกินที่ได้รับไปเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ
นอกจากนี้บริษัทฯ เตรียมจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการครึ่งปีหลังของปี 2563 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.50 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดจะนำเสนอเข้าที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 28 เมษายน 2564 เพื่อทำการอนุมัติ และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 และขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 10 พฤษภาคม 2564 เพื่อกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 27 พฤษภาคม 2564
ทั้งนี้คาดว่าธุรกิจด้านการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์และสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL)ที่ร่วมมือกับทาง SAWAD เพื่อสร้างความหลากหลายและขยายโอกาสในการเข้าลงทุนสู่ธุรกิจใหม่ โดยใช้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์และสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) ที่มีหลักประกันให้มากขึ้น รวมถึงความชำนาญในการพัฒนาโครงการ การซ่อมแซม ปรับปรุง การตลาดและการส่งเสริมการขาย เพื่อเพิ่มช่องทางการขายสินทรัพย์ที่ได้จากการขายทอดตลาด หรือจากการชำระหนี้มากขึ้น รวมถึงเป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินทรัพย์ในราคาที่เหมาะสม มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้รูปแบบการบันทึกรายได้ทางบัญชีจะรับรู้เป็นส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในสัดส่วน 20% (Equity Method Accounting)