"จุรินทร์" ลั่น​ จะฝ่าด่านแก้รธน.ให้ได้​ บอก อยากเห็น​ 3​ ฝ่ายร่วมมือกัน​ เมิน "ศรีสุวรรณ" ร้องป.ป.ช.ฟัน​ 208​ ส.ส.-ส.ว.เห็นชอบร่างรธน.วาระ​ 3​ ระบุ ถ้าผิด​ คนลงมติให้โหวตก็ผิดด้วย เมื่อเวลา​ 09.00​ น.​ วันที่ 23 มี.ค. 64 ที่ทำเนียบรัฐบาล​ นายจุรินทร์​ ลักษณวิศิษฏ์​ รองนายกรัฐมนตรี​ และรมว.พาณิชย์​ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์​ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล​เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา​ จะต้องมีการพูดคุยกับพรรคพลังประชารัฐด้วยหรือไม่ ว่า ในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลคงต้องหารือด้วยกัน แต่บังเอิญว่าเริ่มต้นที่ได้คุยกันมี 3 พรรคการเมือง จึงทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับพรรคพลังประชารัฐ แต่ถัดจากนี้ไปจะเป็นหน้าที่ของวิปรัฐบาลที่จะไปหารือเรื่องรัฐธรรมนูญที่ถือว่าเป็นกฎหมายสูงสุดในการที่จะเข้าสู่สภาฯ เมื่อถามว่า จะต้องขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญหรือไม่​ นายจุรินทร์ กล่าวว่า​ ในสมัยประชุมหน้าก็สามารถเสนอได้ ส่วนการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญขึ้นอยู่กับรัฐบาล เมื่อถามว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสามารถทำได้ในรัฐบาลชุดนี้หรือไม่​ นายจุรินทร์​ กล่าวว่า อย่างน้อยที่สุดในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์จะใช้ความพยายาม เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาสำคัญไม่แพ้ปัญหาการเมือง หากว่าการเมืองนิ่งการเมืองสงบ ทุกอย่างเดินหน้าไปด้วยความเรียบร้อย การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจก็จะราบรื่นขึ้น อันนี้คือหัวใจสำคัญ เพราะฉะนั้นถือว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเสริมปัญหาการแก้ไขเศรษฐกิจด้วย และเป็นทางออกให้กับประเทศ ในสถานการณ์ที่ตนได้เรียงมาเป็นลำดับ​ รวมทั้งปัจจุบันด้วย​ จะได้ไม่​เป็นเหยื่อในทางการเมืองโดยไม่จำเป็น เพราะการที่จะพาประเทศไปสู่การเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น มันเป็นทิศทางที่ควรจะเป็นอยู่แล้ว เมื่อถามว่า จะพยายามผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญใน​ 2 ปีที่เหลืออยู่ใช่หรือไม่​ นายจุรินทร์​ กล่าวว่า อย่างน้อยที่สุดพรรคประชาธิปัตย์พยายามผลักดัน อันนี้ถือเป็นทิศทางที่ได้พุ่งไปตั้งแต่ต้น ที่ผ่านมาก็ได้พิสูจน์แล้วว่าได้ทำหน้าที่จนวาระสุดท้าย นั่นคือการลงมติเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่ 3 เมื่อถามว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราเป็นทางออกที่ดีที่สุดใช่หรือไม่ นายจุรินทร์​ กล่าวว่า ในสถานการณ์ขณะนี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับมีเครื่องหมายคำถาม และดูเหมือนข้อถกเถียงยังไม่ได้ข้อยุติ ว่าสุดท้ายต้องไปทำประชามติก่อนวาระ 1 หรือไปทำประชามติหลังผ่านวาระ 3 ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ​ ยังเป็นข้อถกเถียงกันอยู่ เมื่อถามถึงกรณีนายศรีสุวรรณ​ จรรยา​ เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ยื่น​ ป.ป.ช.ให้เอาผิด​ ส.ส.และ​ ส.ว.ที่ลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวาระ​ 3​ จำนวน​ 208​ คน จะส่งผลต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่​ นายจุรินทร์​ กล่าวว่า การลงมติให้ความเห็นชอบแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระที่ 3 เป็นไปตามมติของรัฐสภา เพราะก่อนที่ทุกคนจะลงมติเห็นชอบก็เป็นมติของที่ประชุมรัฐสภาว่าจะให้มีการลงมติในวาระที่ 3​ ตนถือว่าการลงมติในวาระที่ 3 เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ และเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบทุกประการ ไม่ได้มีปัญหาอะไร และถ้ามีปัญหาคงมีปัญหาทุกคน เพราะคนที่ไปร้องก็ถูกตั้งข้อสังเกตเหมือนกันว่า ทำไมจึงร้องเฉพาะคนที่ลงมติเห็นชอบ แต่ไม่ร้องคนที่ลงมติไม่เห็นชอบ หรือไม่ร้องคนที่มีมติให้รัฐสภาลงมติในวาระที่ 3 ทำไมถึงเว้นไว้ แต่ตนไม่ได้หมายความว่าให้ไปร้องทุกคน เพียงแต่มีข้อสังเกต เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้คนที่ลงมติเห็นชอบในวาระที่ 3 กลายเป็นเป้าหมายในการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้นายจุรินทร์เคยระบุว่าจะแก้อำนาจ​ ส.ว. และญัตตินี้เคยถูกตีตกไปแล้วครั้งหนึ่ง มั่นใจหรือไม่ว่าในการยื่นครั้งต่อไปจะได้เสียงสนับสนุนจากส.ว. นายจุรินทร์​ กล่าวว่า เราก็ต้องทำหน้าที่ของเรา​ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรไม่ได้อยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์พรรคเดียวหรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แต่ขึ้นอยู่มติของที่ประชุมร่วมรัฐสภา และขึ้นอยู่กับสมาชิกวุมฒิสภาไม่น้อยกว่า 1 ใน 3​ และเสียงฝ่ายค้านไม่น้อยกว่า​ 20% อันนี้เป็นเงื่อนไขบังคับที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนเอาไว้ ทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญทำได้ยาก แต่เราก็ต้องฝ่าด่านนี้ไป ไม่เช่นนั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะทำไม่ได้เลย ยืนยันว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นทางออกของประเทศทางหนึ่ง และจะส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ประชาชนอยากเห็นอยู่ด้วย การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองต้องไปด้วยกัน เมื่อถามว่า​ เป็นไปได้หรือไม่ที่ 3 ฝ่ายคือฝ่ายรัฐบาล​ ฝ่ายค้านและสมาชิกวุฒิสภา จะจับมือกันแก้ไขรัฐธรรมนูญ​ นายจุรินทร์ กล่าวว่า​ อยากให้เป็นอย่างนั้น อยากเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้น และตนเคยพูดมาแล้วว่าอยากให้ 3 ฝ่ายได้คุยกัน หาทางออกร่วมกันเพื่อนำไปสู่ข้อสรุป ซึ่งนำมาซึ่งข้อสรุปในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยไม่ตัดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง