ภาคประชาชนในจังหวัดกาฬสินธุ์ ผนึกกำลังส่วนราชการกระบวนการยุติธรรม ผู้นำทางศาสนา ฝ่ายปกครอง ท้องถิ่น ท้องที่ จัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนถึงหมู่บ้านขึ้นเป็นแห่งแรกในจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อประนีประนอม ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในชุมชน ลดค่าใช้จ่ายจ้างทนายความ ลดขั้นตอนการพิจารณาคดีความ โดยเฉพาะเป็นการให้คำปรึกษาและไกล่เกลี่ยข้อพิพาทโดยไม่เสียค่าบริการ ที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน บ้านโคกเครือ หมู่ 3 ต.อุ่มเม่า อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พระครูโสภณวินัยวัฒน์ เจ้าคณะอำเภอยางตลาด (ธ) ประธานศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนบ้านโคกเครือ ร.ต.อ.ธีระชัย ภูเกิดพิมพ์ ผู้ไกล่เกลี่ยประจำศูนย์ฯ ร่วมกับคณะทำงานบริหารประจำศูนย์ฯ ร่วมกันเปิดศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนบ้านโคกเครือ โดยมี พ.ต.ท.ปฏิวัติ ประวิเศษ รองผกก.(สอบสวน) สภ.ยางตลาด นายชุติเดช เสน่ห์วงษ์ เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ นายทวี ขาวผ่อง เครือข่ายยุติธรรม อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยส่วนราชการกระบวนการยุติธรรมระดับจังหวัด ระดับอำเภอ ร่วมงาน และให้ความรู้ ทั้งนี้มีผู้นำชุมชน ชาวบ้าน อาสายุติธรรมชุมชนร่วมงานเป็นจำนวนมาก ร.ต.อ.ธีระชัย ภูเกิดพิมพ์ ผู้ไกล่เกลี่ยประจำศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน บ้านโคกเครือ กล่าวว่า ในภาวะสังคมปัจจุบัน ทั้งการดำเนินชีวิต การจราจร การประกอบอาชีพต่างๆ จะเห็นว่าเกิดข้อขัดแย้ง กรณีพิพาท เป็นคดีความ นำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาทางกระบวนการยุติธรรมเป็นจำนวนมาก ทำให้คู่ขัดแย้งหรือคู่กรณี เสียทรัพย์ เสียเวลา จากการว่าจ้างทนายความและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทั้งๆที่บางคดีเป็นเรื่องเล็กๆน้อย สามารถยอมความตกลงกันได้ แต่กลับต้องขึ้นโรงขึ้นศาล เนื่องจากตกลงกันไม่ได้ ทำให้เกิดความเดือดร้อน และบางครั้งไม่ได้รับความเป็นธรรม ร.ต.อ.ธีระชัยกล่าวอีกว่า จากสาเหตุดังกล่าว ตนและเครือข่ายยุติธรรมชุมชน จึงได้ร่วมกันจัดตั้งคณะทำงานไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนถึงหมู่บ้านขึ้นเป็นแห่งแรกใน จ.กาฬสินธุ์ โดยมีพระครูโสภณวินัยวัฒน์ เจ้าคณะอำเภอยางตลาด (ธ) เป็นประธานศูนย์ฯ ทั้งนี้ มีหัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ กระบวนการยุติธรรมระดับจังหวัดและระดับอำเภอเป็นที่ปรึกษา ซึ่งได้จดทะเบียนจัดตั้งถูกต้องตามกฎหมาย เพื่ออำนวยความสะดวกด้านคดีความให้กับประชาชนทั่วไป ซึ่งที่ผ่านมาบางคนอาจเข้าไม่ถึงกระบวนการยุติธรรม จึงถูกเอารัดเอาเปรียบ ทำให้เสียทรัพย์ เสียเวลา โดยเป้าหมายต่อไปเครือข่ายยุติธรรมภาคประชาชน ยังจะร่วมกันเดินหน้าจัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยฯ ที่ อ.นามน และ อ.ห้วยเม็ก นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายที่จะขับเคลื่อนจัดตั้งทั่วจังหวัด จ.กาฬสินธุ์ ร.ต.อ.ธีระชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนบ้านโคกเครือที่จัดตั้งขึ้น เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทั่วไปที่มีข้อขัดแย้ง หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคู่กรณี ทั้งอุบัติเหตุทางจราจร เรื่องที่ดิน เรื่องมรดก ทั้งทางแพ่ง และทางอาญา ซึ่งไม่ต้องไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ หรือว่าจ้างทนายความ ทางศูนย์พร้อมที่จะให้คำปรึกษา หาทางออกที่ดี โดยให้ความคุ้มครองทางสิทธิ เสรีภาพ และไม่เสียค่าใช่จ่ายใดๆ ซึ่งเมื่อคู่กรณีมารับบริการที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยและสามารถตกลงยอมความกันได้ ก็จะทำบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ส่งข้อมูลเข้าระบบกระบวนการยุติธรรมทุกสาขา ถือเป็นการยุติข้อร้องเรียนหรือความขัดแย้งกรณีนั้น และจะไม่สามารถฟ้องร้องกันอีก “ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนที่จัดตั้งขึ้น จึงเป็นทั้งศูนย์สร้างความปรองดองและศูนย์อำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนในเชิงรุกถึงหมู่บ้าน ประโยชน์ที่ชุมชนในพื้นที่จะได้รับจากการเข้ามาไกล่เกลี่ยที่ศูนย์ฯ คือนอกจากจะใกล้บ้านแล้ว ยังเป็นการลดขั้นตอนกระบวนการสืบสวนสอบสวน ไม่ต้องจ้างทนายความ โดยเฉพาะเป็นการให้คำปรึกษาและไกล่เกลี่ยข้อพิพาทโดยฟรี ไม่เสียค่าบริการแต่อย่างใด” ร.ต.อ.ธีระชัยกล่าว