“หมอสรร คนกันเอง” นำทีม “รักโพนพิสัย” ลุยหาเสียงต่อเนื่อง พร้อมเชิญชวนชาวเทศบาลตำบลโพนพิสัย ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งนายกเทศมนตรี และ สท.ตำบลโพนพิสัย ชูนโยบายสำคัญ “เราจะยกฐานะตัวเองเพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นเทศบาลเมืองไปพร้อมกัน”
นายแพทย์สรร สุนทรธนากุล อดีตนายกเทศมนตรีตำบลโพนพิสัย, ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลโพนพิสัย หัวหน้าทีม “รักโพนพิสัย” เบอร์ 1 และเป็นผู้สมัครนายกเทศมนตรีตำบลโพนพิสัยเพียงหมายเลขเดียว เปิดเผยกับสื่อมวลชนถึงการหาเสียงเลือกตั้งในครั้งนี้ว่า
“ในการลงสมัครรับเลือกตั้งนั้น แม้ว่าจะมีผู้ลงสมัครเพียงเบอร์เดียวก็ตาม ผู้สมัครก็จะต้องมีการประกาศนโยบายของแต่ละกลุ่ม ของแต่ละทีม เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบว่า การที่เราจะเข้ามาทำหน้าที่บริหารท้องถิ่น หรือเข้ามารับใช้พี่น้องประชาชน เรามีอะไรมานำเสนอให้กับชาวบ้านบ้าง อันนี้คือหัวใจหลักของการลงแข่งขัน หรือลงสมัครรับเลือกตั้งในแต่ละสนาม ตรงนี้คือหัวใจหลักในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ในครั้งนี้ สิ่งที่เราต้องการก็คือ การแสดงเจตนารมณ์และความตั้งใจจริงที่อยากจะเข้ามารับใช้พี่น้องประชาชนชาวเขตเทศบาลตำบลโพนพิสัย หรือเข้ามาพัฒนาท้องถิ่น ประการต่อมาก็คือพวกเราลงสมัครในนามทีม คือ “ทีมรักโพนพิสัย” เรามีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลโพนพิสัย ทั้ง 2 เขตเลือกตั้ง จำนวน 12 คน ซึ่งก็มีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งทีมอิสระเข้าร่วมแข่งขันกับเราในครั้งนี้ด้วย
ดังนั้น เราจึงรณรงค์หาเสียงเพื่อให้กับสมาชิกในทีม เพื่อให้มีที่นั่งในสภาให้มากที่สุด หรือยกทีม เพื่อทำให้นโยบายของเราที่ได้ประกาศไว้เป็นจริง มีเอกภาพและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยในห้วงระยะเวลา 8 - 9 ปีที่ผ่านมา ในฐานะที่ตนได้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกเทศมนตรีตำบลโพนพิสัยนั้น เราก็ได้ทำผลงานเป็นที่ประจักษ์พอสมควร และสิ่งที่ “ทีมรักโพนพิสัย” ต้องการทำมากที่สุดก็คือ การยกฐานะเทศบาลตำบลโพนพิสัย ให้เป็น เทศบาลเมืองโพนพิสัย เพราะอำเภอโพนพิสัย เป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดของหนองคาย (เมืองปากห้วยหลวง) เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนาน เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 หรือ 3 เมืองในจังหวัดหนองคาย และเคยเป็นเมืองหลวงของพื้นที่ลุ่มน้ำโขงแห่งนี้ในอดีต เป็นศูนย์กลางการค้า การคมนาคม ที่มีความเจริญรุ่งเรือง เดิมมีอาณาเขตพื้นที่รวมทั้งอำเภอโซ่พิสัย, อำเภอปากคาด, อำเภอเฝ้าไร่ และอำเภอรัตวาปี
อำเภอโพนพิสัย จำเป็นจะต้องได้รับการพัฒนา แต่ติดอยู่ที่เดิมอำเภอโพนพิสัย ได้ก่อตั้งเป็นสุขาภิบาลที่มีขนาดเล็ก เมื่อมีการยกฐานะเป็นเทศบาล ตำบลพื้นที่บริเวณใกล้เคียง ก็ได้ยกฐานะเป็นองค์การบริหารส่วนตำบล จึงทำให้มีพื้นที่ทับซ้อนกัน โอกาสนี้ถือเป็นห้วงระยะเวลาที่ดีที่สุด ที่ตนและทีมรักโพนพิสัย พร้อมด้วยประชาชน ผู้นำ และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นข้างเคียง จะต้องร่วมมือกันในการยกฐานะเทศบาลตำบลโพนพิสัย ให้เป็นเทศบาลเมืองโพนพิสัย พวกเราในฐานะผู้นำ จะต้องพร้อมใจกันเขียนแผนที่อำเภอโพนพิสัยขึ้นมาใหม่ วางแผนใหม่ ว่าเราจะทำให้บ้านเมืองนี้มีหน้าตาเป็นอย่างไร ซึ่งเราก็ได้ตกผลึกแนวคิดร่วมกันมาหลายปีแล้วเช่นเดียวกัน เมื่อเราได้ยกฐานะเทศบาลตำบลโพนพิสัยให้เป็นเทศบาลเมืองโพนพิสัยแล้ว ประชาชนในเขตเทศบาลก็จะได้รับการพัฒนาต่อยอด ส่วนประชาชนอีก 26 หมู่บ้านก็จะได้รับการยกระดับพื้นที่ได้รับการพัฒนาไปด้วยกัน โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งไฟฟ้า ประปา ถนน น้ำเพื่อการเกษตร เป็นต้น นี่คือความตั้งใจสูงสุดที่ตนและทีมรักโพนพิสัย อยากจะเข้ามาบริหารงานในครั้งนี้
วันที่ 28 มีนาคม 2564 นี้ เวลา 08.00 – 17.00 น. เชิญชวนพี่น้องประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในเขตเทศบาลตำบลโพนพิสัย ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลให้มาก ๆ และเลือกทีมรักโพนพิสัยเข้ามาบริหารงานยกทีม ทั้ง 2 เขตเลือกตั้ง จำนวน 12 คน พวกเราขอให้คำมั่นสัญญาว่า จะเข้ามาทำงานด้วยจิตอาสา เพื่อมาพัฒนาตำบลโพนพิสัยจริง ๆ และจะทำให้นโยบายที่ได้กล่าวมาข้างต้นนั้นเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อเป็นการตอบแทนคุณแผ่นดินที่เราได้อาศัยพื้นที่ตรงนี้อาศัยอยู่ และประสบผลสำเร็จในชีวิต ตามสโลแกน “รักโพนพิสัย ใส่ใจทุกปัญหา พัฒนาก้าวไกล”
“ในการลงสมัครรับเลือกตั้งนั้น แม้ว่าจะมีผู้ลงสมัครเพียงเบอร์เดียวก็ตาม ผู้สมัครก็จะต้องมีการประกาศนโยบายของแต่ละกลุ่ม ของแต่ละทีม เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบว่า การที่เราจะเข้ามาทำหน้าที่บริหารท้องถิ่น หรือเข้ามารับใช้พี่น้องประชาชน เรามีอะไรมานำเสนอให้กับชาวบ้านบ้าง อันนี้คือหัวใจหลักของการลงแข่งขัน หรือลงสมัครรับเลือกตั้งในแต่ละสนาม ตรงนี้คือหัวใจหลักในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ในครั้งนี้ สิ่งที่เราต้องการก็คือ การแสดงเจตนารมณ์และความตั้งใจจริงที่อยากจะเข้ามารับใช้พี่น้องประชาชนชาวเขตเทศบาลตำบลโพนพิสัย หรือเข้ามาพัฒนาท้องถิ่น ประการต่อมาก็คือพวกเราลงสมัครในนามทีม คือ “ทีมรักโพนพิสัย” เรามีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลโพนพิสัย ทั้ง 2 เขตเลือกตั้ง จำนวน 12 คน ซึ่งก็มีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งทีมอิสระเข้าร่วมแข่งขันกับเราในครั้งนี้ด้วย
ดังนั้น เราจึงรณรงค์หาเสียงเพื่อให้กับสมาชิกในทีม เพื่อให้มีที่นั่งในสภาให้มากที่สุด หรือยกทีม เพื่อทำให้นโยบายของเราที่ได้ประกาศไว้เป็นจริง มีเอกภาพและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยในห้วงระยะเวลา 8 - 9 ปีที่ผ่านมา ในฐานะที่ตนได้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกเทศมนตรีตำบลโพนพิสัยนั้น เราก็ได้ทำผลงานเป็นที่ประจักษ์พอสมควร และสิ่งที่ “ทีมรักโพนพิสัย” ต้องการทำมากที่สุดก็คือ การยกฐานะเทศบาลตำบลโพนพิสัย ให้เป็น เทศบาลเมืองโพนพิสัย เพราะอำเภอโพนพิสัย เป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดของหนองคาย (เมืองปากห้วยหลวง) เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนาน เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 หรือ 3 เมืองในจังหวัดหนองคาย และเคยเป็นเมืองหลวงของพื้นที่ลุ่มน้ำโขงแห่งนี้ในอดีต เป็นศูนย์กลางการค้า การคมนาคม ที่มีความเจริญรุ่งเรือง เดิมมีอาณาเขตพื้นที่รวมทั้งอำเภอโซ่พิสัย, อำเภอปากคาด, อำเภอเฝ้าไร่ และอำเภอรัตวาปี
อำเภอโพนพิสัย จำเป็นจะต้องได้รับการพัฒนา แต่ติดอยู่ที่เดิมอำเภอโพนพิสัย ได้ก่อตั้งเป็นสุขาภิบาลที่มีขนาดเล็ก เมื่อมีการยกฐานะเป็นเทศบาล ตำบลพื้นที่บริเวณใกล้เคียง ก็ได้ยกฐานะเป็นองค์การบริหารส่วนตำบล จึงทำให้มีพื้นที่ทับซ้อนกัน โอกาสนี้ถือเป็นห้วงระยะเวลาที่ดีที่สุด ที่ตนและทีมรักโพนพิสัย พร้อมด้วยประชาชน ผู้นำ และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นข้างเคียง จะต้องร่วมมือกันในการยกฐานะเทศบาลตำบลโพนพิสัย ให้เป็นเทศบาลเมืองโพนพิสัย พวกเราในฐานะผู้นำ จะต้องพร้อมใจกันเขียนแผนที่อำเภอโพนพิสัยขึ้นมาใหม่ วางแผนใหม่ ว่าเราจะทำให้บ้านเมืองนี้มีหน้าตาเป็นอย่างไร ซึ่งเราก็ได้ตกผลึกแนวคิดร่วมกันมาหลายปีแล้วเช่นเดียวกัน เมื่อเราได้ยกฐานะเทศบาลตำบลโพนพิสัยให้เป็นเทศบาลเมืองโพนพิสัยแล้ว ประชาชนในเขตเทศบาลก็จะได้รับการพัฒนาต่อยอด ส่วนประชาชนอีก 26 หมู่บ้านก็จะได้รับการยกระดับพื้นที่ได้รับการพัฒนาไปด้วยกัน โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งไฟฟ้า ประปา ถนน น้ำเพื่อการเกษตร เป็นต้น นี่คือความตั้งใจสูงสุดที่ตนและทีมรักโพนพิสัย อยากจะเข้ามาบริหารงานในครั้งนี้
วันที่ 28 มีนาคม 2564 นี้ เวลา 08.00 – 17.00 น. เชิญชวนพี่น้องประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในเขตเทศบาลตำบลโพนพิสัย ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลให้มาก ๆ และเลือกทีมรักโพนพิสัยเข้ามาบริหารงานยกทีม ทั้ง 2 เขตเลือกตั้ง จำนวน 12 คน พวกเราขอให้คำมั่นสัญญาว่า จะเข้ามาทำงานด้วยจิตอาสา เพื่อมาพัฒนาตำบลโพนพิสัยจริง ๆ และจะทำให้นโยบายที่ได้กล่าวมาข้างต้นนั้นเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อเป็นการตอบแทนคุณแผ่นดินที่เราได้อาศัยพื้นที่ตรงนี้อาศัยอยู่ และประสบผลสำเร็จในชีวิต ตามสโลแกน “รักโพนพิสัย ใส่ใจทุกปัญหา พัฒนาก้าวไกล”