กรมฝนหลวงและการบินเกษตร และกองทัพบก ร่วมกันแถลงข่าวปฏิบัติการฝนหลวงเมฆอุ่น โดยกองทัพบกสนับสนุนเครื่องบิน CASA จำนวน 1 ลำ ประจำการเพื่อปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่ภาคกลาง ที่จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดลพบุรี เพื่อช่วยปฏิบัติการฝนหลวงให้เกษตรกรมีน้ำใช้อย่างเพียงพอในฤดูกาลเพาะปลูกนี้ เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในการแถลงข่าวปฏิบัติการฝนหลวงเมฆอุ่นภายใต้ความร่วมมือกับกองทัพบก ประจำปี 2564 ซึ่งเป็นการทำงานบูรณาการร่วมกันระหว่างกรมฝนหลวงและการบินเกษตร และกองทัพบก ณ สนามบินนครสวรรค์ นอกจากความร่วมมือดังกล่าวแล้ว ที่ผ่านมากองทัพบกได้สนับสนุนและอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติการฝนหลวงทั้งการใช้งานพื้นที่ในสนามบิน อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ และการสนับสนุนกำลังพลในการปั้นเมล็ดพันธุ์พืชในโครงการโปรยเมล็ดพันธุ์พืชทางอากาศสร้างความชื้นสัมพัทธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติการฝนหลวง โดยกรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้มีการเปิดหน่วยปฏิบัติจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เพื่อใช้ในการปฏิบัติการฝนหลวงบรรเทาปัญหาภัยแล้งและฝนทิ้งช่วงในพื้นที่ภาคกลาง 14 จังหวัด เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อนกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง และลำน้ำต่างๆ ในเขตพื้นที่ภาคกลางให้แก่เกษตรกรได้มีน้ำใช้ในการเกษตร พร้อมฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำจากหน่วยงานในพื้นที่ และมอบนโยบายการดำเนินงานความร่วมมือกับกองทัพบก รวมถึงได้ตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่และให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ณ ลานจอดเครื่องบินสนามบินนครสวรรค์ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กล่าวว่า ในปีนี้มีแนวโน้มฝนในประเทศไทยจะมาเร็วกว่าปีที่ผ่านมา แต่เราก็ยังต้องเผชิญกับปัญหาฝนทิ้งช่วงอยู่ทุกปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับพี่น้องเกษตรกร ที่ต้องเดือดร้อนกับการหาน้ำไปหล่อเลี้ยงผลผลิตในไร่นา ทั้งนี้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง ต้องดูแลพื้นที่การเกษตรหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคกลาง โดยมีกองทัพบกให้การสนับสนุนอากาศยาน อุปกรณ์ต่างๆ ที่อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติการฝนหลวง รวมถึงกำลังพลในการปฏิบัติงาน ภายใต้โครงการปฏิบัติการฝนหลวงเมฆอุ่นที่ร่วมมือกับกองทัพบก ประจำปี 2564 และยังให้การสนับสนุนกำลังพลในการปั้นเมล็ดพันธุ์พืช ในโครงการโปรยเมล็ดพันธุ์พืชทางอากาศสร้างความชื้นสัมพัทธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติการฝนหลวง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นโครงการที่ช่วยเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ ทำให้มีความชื้นสัมพัทธ์มากขึ้นในอากาศ ซึ่งจะส่งผลให้การปฏิบัติการฝนหลวงง่ายขึ้น เพื่อสนองพระราชปณิธาน ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการช่วยเหลือประชาชนจากปัญหาภัยแล้ง และการให้ความช่วยเหลือบรรเทาปัญหาหมอกควันและไฟป่า สำหรับเครื่องบิน CASA 1 ลำ ที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพบกนี้จะประจำการเพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ณ จังหวัดนครสวรรค์ จนถึงวันที่ 31 มีนาคม นี้ จากนั้นจะไปประจำการที่หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จังหวัดลพบุรี ในวันที่ 1 เมษายน 2564 เป็นลำดับต่อไป ด้านนายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้เปิดหน่วยปฏิบัติการทั้งสิ้น 11 หน่วย กระจายทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 โดยศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง จังหวัดนครสวรรค์ มีเครื่องบิน Caravan จำนวน 2 ลำ เครื่องบิน Casa ของกองทัพบก จำนวน 1 ลำ และหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จังหวัดกาญจนบุรี มีเครื่องบิน Caravan จำนวน 3 ลำ โดยได้กำหนดให้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง ดำเนินการปฏิบัติการฝนหลวงให้ครอบคลุมจังหวัดเป้าหมาย 14 จังหวัดภาคกลาง เติมน้ำต้นทุนให้กับเขื่อนและอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง และพื้นที่การเกษตรเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีน้ำใช้ทั้งการอุปโภค บริโภค และใช้ในพื้นที่การเกษตร พร้อมย้ำว่าจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงของโลกขณะนี้ได้ทำให้เกิดสภาวะโลกร้อน ฟ้าฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล ส่งผลให้สภาพอากาศโดยรวมไม่เข้าเงื่อนไขในการปฏิบัติการฝนหลวง แต่ไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นอย่างไร กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ยังคงมีการตรวจสภาพอากาศประจำวันอย่างต่อเนื่องทุกวันเพื่อให้มีความพร้อมทุกด้าน และในปีนี้ยังคงได้รับการสนับสนุนทั้งอากาศยาน อุปกรณ์อำนวยความสะดวก และกำลังพลจากกองทัพบก ด้วยดีเสมอมาทำให้การปฏิบัติงานมีความพร้อมมากยิ่งขึ้นในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อนทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลาง เพื่อให้มีน้ำใช้ ในการทำเกษตรฤดูกาลเพาะปลูกนี้ต่อไป นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์-15 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา กรมฝนหลวงและการบินเกษตรยังได้ปฏิบัติภารกิจในส่วนของภาคกลาง มีการขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง รวม 16 วัน 122 เที่ยวบิน ให้การช่วยเหลือทำให้เกิดฝนตกในพื้นที่การเกษตรของจังหวัด อุทัยธานี นครสวรรค์ ตาก ลพบุรี ชัยนาท เพชรบูรณ์ กาญจนบุรี สระบุรี สิงห์บุรี และสุพรรณบุรี มีพื้นที่การเกษตรที่ได้รับประโยชน์จากการปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 16.063 ล้านไร่ ภารกิจบรรเทาปัญหาหมอกควันและไฟป่าในจังหวัดเพชรบูรณ์ และภารกิจเติมน้ำต้นทุนให้เขื่อนกักเก็บน้ำ สามารถเพิ่มปริมาณฝนจากการปฏิบัติการฝนหลวงในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนวชิราลงกรณ เขื่อนกระเสียว และเขื่อนทับเสลา