กลุ่มฮักน้ำเลยเตรียมบุกกรุง หลังกรมชลฯไม่ยอมให้ข้อมูลโครงการประตูระบายน้ำศรีสองรักหวั่นสูญที่ดินและน้ำท่วมหมู่บ้าน เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2564 ที่วัดบ้านกลาง ต.ปากตม อ.เชียงคาน จ.เลย ชาวบ้านกลุ่มฮักน้ำเลย กว่า 200 คน ได้ร่วมประชุมและยื่นหนังสือต่อนายนครชัย แสงมณี นายอำเภอเชียงคาน เพื่อคัดค้านโครงการสร้างประตูระบายน้ำศรีสองรัก นางมุด อุ่นทุม ตัวแทนชาวบ้านกลุ่มฮักน้ำเลย กล่าวว่า เนื่องจากการประชุมกรรมการแก้ไขปัญหาอย่างมีส่วนร่วมของโครงการเขื่อนศรีสองรักระดับจังหวัดที่ตั้งไว้นั้นล้มเหลวและไม่มีความคืบหน้า เราจึงวางแผนว่าจะไปยื่นหนังสือเพื่อทางอำเภอดำเนินการเร่งรัดขอขอข้อมูลเกี่ยวกับแบบก่อสร้างเขื่อนและแบบก่อสร้างคันกั้นน้ำของโครงการเขื่อนศรีสองรัก เพราะทางกลุ่มทราบว่าจะมีการเวนคืนที่ดินและก่อสร้างคันกั้นน้ำตลอดริมสองฝั่งของแม่น้ำเลยยาวมากกว่า 21 กิโลเมตร และทางกรมชลประทานในฐานะเจ้าของโครงการยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลแก่ชุมชนริมแม่น้ำเลยว่าจะเกิดผลกระทบและการสูญเสียอย่างไรบ้าง เพราะเรากังวลเรื่องผลกระทบจากน้ำท่วมที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยของพวกเรา เพราะหมู่บ้านตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเลย ที่ผ่านมาเราเรียกร้องให้มีการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสังคมมาตลอด แต่กรมชลประทานก็อ้างว่า แม่น้ำเลยและขนาดพื้นที่ชลปรทานของโครงการไม่ถึงจำนวน 80,000 ไร่ จึงไม่เข้าข่ายที่ต้องมีการจัดทำอีไอเอ ซึ่งพวกเราคิดว่าไม่ยุติธรรมต่อพวกเราที่พึ่งพาอาศัยอยู่กับแม่น้ำเลยและพื้นที่ตรงนั้นมาแต่รุ่นพ่อแม่ ด้านนายนครชัย แสงมณี นายอำเภอเชียงคาน กล่าวในที่ประชุมชาวบ้านวันนี้ว่า พึ่งมารับตำแหน่งและยังไม่ทราบข้อมูล ตอบไม่ได้จริงจึงอยากจะสอบถามเบื้องต้น ว่าจะเสียหายเท่าไหร่ และจะกลับไปดูข้อมูลโดยขอรายละเอียดโครงการจากกรมชลประทาน แต่ชาวบ้านอยากรู้แนวเขตที่ชัดเจนว่าถึงไหน จะลามไปถึงไหน จึงต้องมีหลักให้ได้ก่อน ถ้าน้ำมาถึงประตูโบสก์จะท่วมไปถึงกี่ครัวเรือน “ถ้าผมขอข้อมูลไม่ได้ก็จะต้องนำเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดต่อไป หากไม่ได้ก็ต้องให้ท่านไปประสานกับอธิบดีกรมชลประธาน ถ้าได้อย่างไร ต้องรายงานผู้ว่าฯ เราจะได้รู้แนวเขตที่ชัดเจน ก่อนที่จะมีการสอบสวนเพิ่มเติมที่ชัดเจน”นายนครชัย กล่าว ชาวบ้านรายหนึ่ง กล่าวว่าพวกตนไม่อยากให้มีการสำรวจข้อมูลอะไรไปก่อน จนกว่าเราจะรู้ว่าแผนของการก่อสร้างดังกล่าวเป็นอย่างไร นางมุด กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่จริงคือนายอำเภอตั้งใจจะมาเอาเอกสารที่ดิน/บัตรประจำตัวประชาชนเซ็นสำเนาถูกต้อง ให้รวบรวมไว้ให้นายอำเภอและจะเอามารวบรวมข้อมูลความเสียหายให้ แต่พวกตนไม่ยอมให้ หากทำก็เท่ากับเซ็นยินยอมกับโครงการนี้ไปแล้ว “เรากังวลใจคือ น้ำท่วมที่ดินทำกิน กรมชลประทานปกปิดข้อมูล และไม่ยอมให้ เราแค่อยากรู้ว่า คันไดร์ยาวขนาดไหน ระดับน้ำจะท่วมถึงไหนบ้าง เราอยากได้ข้อมูลแบบนี้ เพราะเรากังวลเรื่องน้ำท่วมบ้านเรามาก หากไม่ได้ข้อมูลแบบแปลนการก่อสร้างเขื่อนและแบบแปลนคันไดร์ของเขื่อนดังกล่าวเร็วที่สุด หากไม่ได้ พวกเราก็คิดว่าจะต้องเดินทางไปกรุงเทพฯ”นางมุด กล่าว อนึ่ง โครงการประตูระบายน้ำศรีสองรักอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเลย เป็นโครงการก่อสร้างเขื่อนที่ปากแม่น้ำเลย ด้วยการขุดคลองช่องลัดเพื่อย่นระยะทางการไหลของน้ำบริเวณโค้งลำน้ำ โดยการก่อสร้างประตูระบายน้ำศรีสองรัก 2 แห่ง บริเวณคลองช่องลัด และบริเวณลำน้ำเดิม(แม่น้ำเลย) โดยประตูระบายน้ำทั้ง 2 แห่ง จะทำหน้าที่บริหารจัดการน้ำในแม่น้ำเลย บานประตูระบายน้ำสามารถปิดเพื่อยกระดับน้ำให้สูงขึ้นและเก็บกักน้ำไว้ในแม่น้ำเลยได้ 6 ล้านลูกบาศก์เมตร นอกจากนี้ ยังมีสถานีสูบน้ำพร้อมระบบท่อส่งน้ำความยาวประมาณ 99 กิโลเมตร ทำหน้าที่ส่งน้ำสนับสนุนพื้นที่เกษตรกรรมทั้งสองฝั่งแม่น้ำเลย บริเวณอำเภอเชียงคาน ครอบคลุมพื้นที่ 7 ตำบล มีพื้นที่ได้รับประโยชน์ในช่วงฤดูฝน 72,500 ไร่ และฤดูแล้งอีกกว่า 18,100 ไร่ โครงการนี้อนุมัติในช่วงของรัฐบาลคสช. เมื่อปี 2559 ด้วยงบประมาณกว่า 6000 ล้านบาท