หนุ่มนักธุรกิจเศร้า ติดเชื้อโควิด-19 พร้อมมารดา ตัวเองรักษาหายแต่แม่รับอาการไม่ไหวเสียชีวิตทั้งที่ติดเชื้อไม่นาน ย้ำแม้มีวัคซีนแล้วแต่การป้องกันตัวคือสิ่งสำคัญที่สุด โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ย้ำฝากถึงประชาชนการ อย่าตกเด็ดขาด ส่วนหลวงพี่น้ำฝน บอกรับเผาศพโควิด ไม่น่ากลัว วัดไผ่ล้อมพร้อมรับจัดการด้านสาธารณสุข โดยยังมีการอนุเคราะห์สวดเผาฟรีให้ด้วย
วันที่ 13 มีนาคม 64 ที่ศาลาชีวะศิริ ฌาปนสถานวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม บุตรชายและญาติของ นางสาวอลินรัชช์ดา มะสีพันธ์ ได้ติดต่อประสานมายัง พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เพื่อขอประกอบพิธีฌาปนกิจศพ หลังจากได้เสียชีวิตลงด้วยการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่โรงพยาบาลราชวิถี เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา
โดยในการจัดพิธีศพดังกล่าว (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้ประสานให้เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐม ได้มาร่วมในการดำเนินการ โดยนำโลงศพที่บรรทุกมาโดยรถตู้ที่มาจากโรงพยาบาลได้นำขึ้นยังเตาเผาทันทีโดยมีการบรรจุศพอย่างมิดชิด ซึ่งญาติที่มารอส่งดวงวิญญาณยังอยู่ในความเศร้าโศกและยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นกับครอบครัว เนื่องจากมีเวลาทำใจเพียงไม่กี่วันหลังทราบว่ามีการติดเชื้อกับคนในครอบครัว
พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) กล่าวว่า วัดไผ่ล้อมยังยินดีที่จะมาเผาศพที่วัดไผ่ล้อม ซึ่งมีทั้งแบบที่ขออนุเคราะห์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะหน่วยงานด้านสาธารณสุข ที่ประสานมาก็มีความพร้อม โดยมีความปลอดภัยยืนยันได้จากหน่วยงานของรัฐซึ่งมีการแพ๊คซีนอย่างดี 3 ชั้น และไม่มีความน่ากลัวอย่างที่คิด ซึ่งทางวัดยินดีเสมอที่จะดำเนินกับศพของผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 จากทั่วประเทศที่ติดต่อเข้ามา
ขณะที่ นายธีรพงศ์ พันธ์มณฑา อายุ 33 ปี ชาวจังหวัดสมุทรสาคร บอกว่า ตนเองกับมารดาติดเชื้อโควิด-19 พร้อมกัน ตั้งแต่ช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา โดยไม่ทราบว่าติดเชื้อมาจากที่ไหน แต่ตนเองนั้นรักษาหาย แต่มารดาที่มีอายุ 55 ปีนั้นมีอาการหนักกว่า และมีความเจ็บป่วยมากกว่าตนเอง ซึ่งที่จริงแล้วมารดานั้นเมื่อตรวจทราบว่าติดเชื้อได้บอกกับผมว่า แม่คงไม่รอดแน่ ก่อนอาการจะทรุดหนักและเสียชีวิตเมื่อวานนี้ ซึ่งถือว่าเร็วมาก โดยแม้จะมีวัคซีนก็ยังคงต้องยกการ์ดสูงเข้าไว้
"ผมมีแม่เป็นสาหลักของครอบครัว จู่ๆมาติดเชื้อไม่นานก็เสียชีวิต เพราะท่านเป็นเสาหลักของครอบครัวในการทำธุรกิจ และคุณแม่กำลังประคับประคองให้ผมดำเนินธุรกิจสานต่อให้แข็งแรง ผมมีเวลาทำใจน้อยมาก ซึ่งผมตัวผมก็ติดเชื้อและรักษาหายแล้วแต่รู้สึกว่าร่างกายนั้นไม่เหมือนเดิมแล้ว โดยแม้จะมีวัคซีนเข้ามาแล้ว แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือการป้องกันตัวเอง แม่ผมเป็นคนตื่นกลัวไวรัสโควิดมาก ป้องกันตัวดีมากแต่ก็ยังมาเสียชีวิตจนได้ ผมขอฝากประสบการณนี้ไปกับคนไทย ว่าป้องกันตัวนั้นมีความสำคัญมากที่สุด ยิ่งเฉพาะผู้สูงอายุนั้นยิ่งจำเป็นมากที่ต้องระวังเป็นพิเศษเราพลาดไม่ได้เลย" นายธีรพงศ์ กล่าวปิดท้าย
ขณะที่วันนี้ สถานการณ์ โควิด-19 จังหวัดนครปฐม ระลอกใหม่ พบผู้ป่วยยืนยันใหม่ 3 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 123 ราย เป็น คนไทย 120 ราย ต่างชาติ 3 รายพักรักษาตัวในโรงพยาบาลจำนวน 5 ราย โดยผู้ป่วยรายที่ 22 ยังมีอาการปอดติดเชื้อ ได้รับการเจาะคอเพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน คณะแพทย์ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด
ผู้ป่วยรายที่ 80 ได้รับการใส่ท่อช่วยหายใจเนื่องจากมีภาวะปอดติดเชื้อ รักษาหาย 118 ราย ผู้ป่วยระลอกใหม่รายที่ 121 อาชีพขายส้มตำที่กรุงเทพฯ ปัจจัยเสี่ยงคือไปตลาดบางแค เพศหญิง อายุ 64 ปี ต.คลองโยง อ.พุทธมณฑล
รายที่ 122 เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงผู้ป่วยรายที่ 121 เพศชาย อายุ 63 ปี ต.คลองโยง อ.พุทธมณฑล
รายที่ 123 เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงผู้ป่วยรายที่ 121 เพศชาย อายุ 34 ปี ต.คลองโยง อ.พุทธมณฑล มีต่อเนื่อง จำนวนผู้ที่ได้รับการตรวจหาเชื้อรวม 32,757 ราย
ล่าสุดมีการออกประกาศ ให้ประชาชนจังหวัดนครปฐมที่เดินทางไปตลาดบางแค กรุงเทพ ตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ.-13 มี.ค.64 ให้ไปตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังโรงพยาบาลใกล้บ้าน เนื่องจากพื้นที่ตลาดบางแค พบผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการจำนวน 80 คน ซึ่งทาง กทม. กำลังมีการตรวจหาดเชื้ออีก 1,000 ราย เพื่อหาเชื้อต่อไป
พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) กล่าวว่า วัดไผ่ล้อมยังยินดีที่จะมาเผาศพที่วัดไผ่ล้อม ซึ่งมีทั้งแบบที่ขออนุเคราะห์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะหน่วยงานด้านสาธารณสุข ที่ประสานมาก็มีความพร้อม โดยมีความปลอดภัยยืนยันได้จากหน่วยงานของรัฐซึ่งมีการแพ๊คซีนอย่างดี 3 ชั้น และไม่มีความน่ากลัวอย่างที่คิด ซึ่งทางวัดยินดีเสมอที่จะดำเนินกับศพของผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 จากทั่วประเทศที่ติดต่อเข้ามา
ขณะที่ นายธีรพงศ์ พันธ์มณฑา อายุ 33 ปี ชาวจังหวัดสมุทรสาคร บอกว่า ตนเองกับมารดาติดเชื้อโควิด-19 พร้อมกัน ตั้งแต่ช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา โดยไม่ทราบว่าติดเชื้อมาจากที่ไหน แต่ตนเองนั้นรักษาหาย แต่มารดาที่มีอายุ 55 ปีนั้นมีอาการหนักกว่า และมีความเจ็บป่วยมากกว่าตนเอง ซึ่งที่จริงแล้วมารดานั้นเมื่อตรวจทราบว่าติดเชื้อได้บอกกับผมว่า แม่คงไม่รอดแน่ ก่อนอาการจะทรุดหนักและเสียชีวิตเมื่อวานนี้ ซึ่งถือว่าเร็วมาก โดยแม้จะมีวัคซีนก็ยังคงต้องยกการ์ดสูงเข้าไว้
"ผมมีแม่เป็นสาหลักของครอบครัว จู่ๆมาติดเชื้อไม่นานก็เสียชีวิต เพราะท่านเป็นเสาหลักของครอบครัวในการทำธุรกิจ และคุณแม่กำลังประคับประคองให้ผมดำเนินธุรกิจสานต่อให้แข็งแรง ผมมีเวลาทำใจน้อยมาก ซึ่งผมตัวผมก็ติดเชื้อและรักษาหายแล้วแต่รู้สึกว่าร่างกายนั้นไม่เหมือนเดิมแล้ว โดยแม้จะมีวัคซีนเข้ามาแล้ว แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือการป้องกันตัวเอง แม่ผมเป็นคนตื่นกลัวไวรัสโควิดมาก ป้องกันตัวดีมากแต่ก็ยังมาเสียชีวิตจนได้ ผมขอฝากประสบการณนี้ไปกับคนไทย ว่าป้องกันตัวนั้นมีความสำคัญมากที่สุด ยิ่งเฉพาะผู้สูงอายุนั้นยิ่งจำเป็นมากที่ต้องระวังเป็นพิเศษเราพลาดไม่ได้เลย" นายธีรพงศ์ กล่าวปิดท้าย
ขณะที่วันนี้ สถานการณ์ โควิด-19 จังหวัดนครปฐม ระลอกใหม่ พบผู้ป่วยยืนยันใหม่ 3 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 123 ราย เป็น คนไทย 120 ราย ต่างชาติ 3 รายพักรักษาตัวในโรงพยาบาลจำนวน 5 ราย โดยผู้ป่วยรายที่ 22 ยังมีอาการปอดติดเชื้อ ได้รับการเจาะคอเพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน คณะแพทย์ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด
ผู้ป่วยรายที่ 80 ได้รับการใส่ท่อช่วยหายใจเนื่องจากมีภาวะปอดติดเชื้อ รักษาหาย 118 ราย ผู้ป่วยระลอกใหม่รายที่ 121 อาชีพขายส้มตำที่กรุงเทพฯ ปัจจัยเสี่ยงคือไปตลาดบางแค เพศหญิง อายุ 64 ปี ต.คลองโยง อ.พุทธมณฑล
รายที่ 122 เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงผู้ป่วยรายที่ 121 เพศชาย อายุ 63 ปี ต.คลองโยง อ.พุทธมณฑล
รายที่ 123 เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงผู้ป่วยรายที่ 121 เพศชาย อายุ 34 ปี ต.คลองโยง อ.พุทธมณฑล มีต่อเนื่อง จำนวนผู้ที่ได้รับการตรวจหาเชื้อรวม 32,757 ราย
ล่าสุดมีการออกประกาศ ให้ประชาชนจังหวัดนครปฐมที่เดินทางไปตลาดบางแค กรุงเทพ ตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ.-13 มี.ค.64 ให้ไปตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังโรงพยาบาลใกล้บ้าน เนื่องจากพื้นที่ตลาดบางแค พบผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการจำนวน 80 คน ซึ่งทาง กทม. กำลังมีการตรวจหาดเชื้ออีก 1,000 ราย เพื่อหาเชื้อต่อไป