จากกรณีที่ อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จำนวนหนึ่งเรียกร้อง พร้อมทั้ง ยื่นขอประกันตัวนักศึกษาซึ่งถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 ต่อศาล นั้น ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก ธรรมศาสตร์พิทักษ์ธรรม ได้โพสต์ แถลงการณ์ เรื่อง กรณีอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จำนวนหนึ่งเรียกร้อง& ยื่นขอประกันตัวนักศึกษาซึ่งถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112ต่อศาล โดยมีเนื้อความระบุดังนี้ ตามที่มีการออกเอกสารในนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เพื่อเรียกร้องเสรีภาพให้แก่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยซึ่งถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 ตลอดจนมีอาจารย์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์บางท่านบางคณะ ได้รวมกลุ่มกันเพื่อยื่นขอประกันตัวนักศึกษาต่อศาลโดยอ้างถึงโอกาสทางการศึกษานั้น กลุ่มธรรมศาสตร์พิทักษ์ธรรม รู้สึกเห็นใจและเข้าใจในความเป็นครูอาจารย์ของท่านเหล่านั้นที่ย่อมได้รับความสะเทือนใจและห่วงใยต่อศิษย์ แต่หากท่านจะใช้สติปัญญาทบทวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ท่านได้ห้ามปรามมิให้ศิษย์ของท่านกระทำการผิดกฎหมายหรือไม่ ผู้ที่เขียนแถลงการณ์ในนามมหาวิทยาลัยก็ดี บรรดาคณาจารย์เช่นท่านก็ดีล้วนแล้วแต่นำอุดมการณ์ความคิดของท่านมาเรียกร้องเสรีภาพให้กับลูกศิษย์ในวันนี้โดยมิได้ยืนอยู่บนข้อเท็จจริงหรือไม่ เรามีความเห็นว่าสิ่งที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ควรจะกระทำอย่างเร่งด่วนในเวลานี้ คือการเรียกร้องที่จะให้ทั้งนางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล(น้องรุ้ง) นักศึกษาคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายพริษฐ์ ชิวารักษ์. (เพนกวิน) นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนักศึกษาคนอื่นๆที่ถูกดำเนินคดีได้มีโอกาสเรียนหนังสือและเข้าสอบจนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ควรจัดอาจารย์ไปจัดสอนหรือจัดสอบให้ในคุก หรือจะให้เรียนออนไลน์หรือสอบออนไลน์ก็ตาม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็ควรกระทำภารกิจนี้เช่นกันต่างหาก โดยสามารถขอผ่อนผันต่อกรมราชทัณฑ์ให้อำนวยความสะดวกและมีความเป็นสัปปายะพอที่นักศึกษาจะสามารถศึกษาต่อจนจบได้แม้จะยังติดคุกก็ตาม หากมีกฎระเบียบใดที่จะเป็นอุปสรรคขัดขวางต่อการเรียนการสอนในคุกสำหรับนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ (เพนกวิน)และนางสาวปนัสยา สืทธิจิรวัฒนกุล(รุ้ง) และนักศึกษาคนอื่นใดก็ตาม ทางสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ควรผ่อนปรนหรือแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ เพื่อให้นักศึกษาที่ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ไปรวมกว่ายี่สิบคดีและยังรวมถึงคดีอื่นๆ อีกมากมาย จะมีโอกาสได้เรียนหนังสือต่อเมื่อพ้นโทษออกมา หากแต่ต้องช่วยให้เขาสำเร็จการศึกษาเป็นบัณฑิตให้ได้แม้เขาจะติดคุกก็ตาม เพื่อให้เขายังคงมีอนาคตเหลืออยู่ย่อมดีกว่าการให้ไปติดคุกจนพ้นสภาพนักศึกษาหรือไม่ ? กลุ่มฯ ขอวิงวอนให้ท่านอาจารย์ทั้งหลายที่ออกมาเรียกร้องต่อศาลและสังคมในเวลานี้ว่า ท่านควรกระทำหน้าที่ของความเป็นครูบาอาจารย์ของท่านในจุดนี้เสียก่อนที่จะไปกดดันหรือละเมิดอำนาจศาล และควรอบรมสั่งสอนลูกศิษย์ให้เคารพต่อกฎหมาบ้านเมืองและกระบวนการยุติธรรมไทยเพื่อความสงบสุขของสังคม หากมีอุปสรรคจากระเบียบราชการหรือกรมราชทัณฑ์อย่างใด จึงจักค่อยหาทางแก้ไขหรือขอผ่อนปรนจากผู้มีอำนาจหน้าที่ต่อไป หากทางมหาวิทยาลัยฯ.และกลุ่มอาจารย์ธรรมศาสตร์ท่านได้ทำหน้าที่ของท่านในจุดนี้อย่างเต็มกำลังความสามารถแล้ว สังคมจึงจักนับว่าท่านว่าได้ทำหน้าที่ของครูผู้เมตตาต่ออนาคตของศิษย์ได้อย่างแท้จริง อนึ่งในส่วนของกลุ่มอาจารย์ที่ร่วมเรียกร้องในครั้งนี้ ท่านควรจะทบทวนบทบาทของท่านด้วยเช่นกันว่าท่านได้ประพฤติปฏิบัติหน้าที่ครูอาจารย์อย่างเหมาะสมหรือไม่ นับแต่เหตุการณ์ 10 สิงหาคม 2563 เป็นต้นมา มีกลุ่มศิษย์เก่าและประชาคมธรรมศาสตร์ได้ทักท้วง เตือนสติบรรดาคณาจารย์ทั้งหลายให้ห้ามปรามตักเตือนลูกศิษย์ แต่ท่านกลับมิได้ใส่ใจ เมื่อเหตุการณ์ล่วงเลยมาจนเป็นเช่นนี้ท่านควรจักได้สำนึกถึงผลของการกระทำที่ตกต่อลูกศิษย์ของท่านและแสดงความรับผิดชอบในการ กระทำของศิษย์ให้สังคมไทยได้เห็นประจักษ์ การพยายามยื่นประกันตัวต่อศาลให้แก่ศิษย์ที่ท่านสนับสนุนเป็นเพียงการขายผ้าเอาหน้ารอดเพื่อกลบเกลื่อนความผิดของท่านเพียงเท่านั้นหาใช่การแก้ปัญหาทั้งหมดไม่ ผู้ใดกระทำผิดย่อมต้องรับผลแห่งการกระทำนั้น เป็นกฏธรรมชาติที่เรียกว่ากฏแห่งกรรม กลุ่มธรรมศาสตร์พิทักษ์ธรรม และ กลุ่มอาศรมสังคมวิทยา ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๔ #ธรรมศาสตร์พิทักษ์ธรรม #ThammasatPitakTham