จากกรณีรายงานข่าวในหลายประเทศหยุดใช้ชั่วคราววัคซีน AstraZeneca เนื่องจากมีผู้ป่วยเกิดการแข็งตัวของเลือดในหลอดเลือดดำและมีการเสียชีวิต 1 ราย
ล่าสุดวันนี้ (12 มี.ค.64) นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวงสาธารณสุข (รก.11) นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ หัวหน้าสำนักวิชาการสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้ ยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่าวัคซีน AstraZeneca อันตราย หรือเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น และพบว่าจำนวนผู้ป่วยที่ได้รับวัคซีนไม่สูงกว่าในประชากรปกติทั่วไป.... อย่างไรก็ตาม ความปลอดภัยของประชาชนคือเป้าหมายสูงสุดของกระทรวงสาธารณสุข ขณะนี้ยืนยันไม่ใช่วัคซีนแอสตราเซเนกา คาดว่าจะชะลอการฉีดไปก็แค่ 1-2 สัปดาห์เท่านั้น วัคซีน Sinovac ยังฉีดได้ปกติ
1) ข้อมูล องค์กรกำกับดูแลยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ (MHRA) ประเทศอังกฤษ ประกาศว่า...ไม่มีหลักฐานว่าวัคซีนก่อให้เกิดปัญหาและผู้คนยังควรไปรับการฉีดวัคซีน สภาวะ "ลิ่มเลือด” สามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติปัจจุบันวัคซีน AstraZeneca ได้รับการฉีดวัคซีนมากกว่า 11 ล้านโดสทั่วประเทศอังกฤษ
2) รายงานข่าวในหลายประเทศหยุดใช้ชั่วคราวเพราะมีผู้ป่วยเกิดการแข็งตัวของเลือดในหลอดเลือดดำและมีการเสียชีวิต 1 ราย จากการศึกษาใน 3 ล้านรายที่ฉีดวัคซีน มีการป่วยเกิดขึ้น 22 คน หรือเทียบกับ 7 คนในล้านคนที่ฉีดวัคซีน
• ข้อเท็จจริง ยังไม่มีการสรุปว่าเกี่ยวข้องกัน
• ตัวอย่าง รายงานหลังการฉีดวัคซีนในนอร์เวย์และเกาหลี มีการเสียชีวิตเกิดขึ้น
- แต่ในที่สุดก็พิสูจน์ว่าการเสียชีวิตดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน วัคซีน AstraZeneca ก็ยังคงดำเนินการฉีดต่อไปอีกเป็นจำนวนมากหรือจะมากที่สุดก็ได้ในขณะนี้
3) ) ข้อมูลด้านการแพทย์ ในสภาวะปกติที่ไม่มีการฉีดวัคซีน อุบัติการณ์การเกิดการอุดตันของเส้นเลือดดำ
• พบได้บ่อยในคนยุโรป อเมริกามากกว่าคนเอเชียรวมทั้งประเทศไทย ถึง 3 เท่า
• ข้อสังเกต เวลาขึ้นเครื่องบิน และต้องเดินทางระยะไกล จะมีคำแนะนำเสมอ ให้ดื่มน้ำให้มาก ให้ขยับตัว ขยับเท้าเพื่อป้องกันการเกิดภาวะการณ์ดังกล่าว 
• ปัจจัยทางพันธุกรรมมีส่วนเข้ามาเกี่ยวข้องแน่นอนที่ทำให้คนยุโรปมีโอกาสเป็นมากกว่าคนเอเชีย
• อัตราการเพิ่มขึ้นตามอายุที่มากขึ้น โดยคนในยุโรปที่อายุเกิน 60 ปีจะมีอุบัติการณ์ประมาณ 5-13 ใน 1,000 คนต่อปี
• คนเอเชียอย่างประเทศไทยมีโอกาสเกิดโรคนี้น้อยกว่าคนยุโรปถึง 3 เท่า และวัคซีนที่ใช้ที่ทางยุโรปที่หยุดการใช้เป็น Batch (รุ่นการผลิต) ที่ต่างจากประเทศไทย
• ประเทศอังกฤษได้ฉีดไปแล้วมากกว่า 11 ล้านคน ก็ไม่พบอุบัติการณ์ดังกล่าวเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ
4) ผลประโยชน์ที่ได้รับของวัคซีนยังคงมีมากกว่าความเสี่ยงและวัคซีนยังสามารถให้ต่อไปได้ในขณะที่การตรวจสอบกรณีของเหตุการณ์ลิ่มเลือดอุดตันในประเทศดังกล่าวยังคงดำเนินอยู่
5) อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขตระหนักที่ต้องติดตาม หาสาเหตุว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ หรือเป็นอาการที่พบร่วมด้วยหลังฉีดวัคซีน โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้งภายในและภายนอกกระทรวงสาธารณสุข ร่วมพิจารณา
• ข้อสรุปผลพิจารณา... ความปลอดภัยของประชาชนคือเป้าหมายสูงสุดของกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันไม่ใช่วัคซีนแอสตราเซเนกาไม่ปลอดภัย คาดว่าจะชะลอการฉีดไปก็แค่ 1-2 สัปดาห์เท่านั้น แต่ขอรอดูผลการสืบค้นเสียก่อนเพื่อความมั่นใจในความปลอดภัย และตอนนี้การฉีดวัคซีนไม่ได้ยุติไปเพราะวัคซีนของซิโนแวคก็ยังมีการฉีดอยู่
• กระทรวงสาธารณสุข จำเป็นต้องสั่งชะลอฉีดวัคซีนไปก่อนในวันนี้ เนื่องจากเมื่อคืนนี้เอง ทั้งประเทศเดนมาร์ก ออสเตรีย พบอาการฉีดวัคซีนแล้ว พบการแข็งตัวของลิ่มเลือดในเส้นเลือดดำ และได้ประกาศชะลอการฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาเพื่อตรวจสอบก่อน ทำให้กระทรวงสาธารณสุขของประเทศไทย จึงต้องนำมาพิจารณา แม้วัคซีนแอสตราเซเนกามีประสิทธิภาพดแต่ไทยเราก็ไม่จำเป็นต้องรีบฉีดวัคซีนนี้ และรอผลการสืบค้นของประเทศเดนมาร์ก และหน่วยงานต่างๆ ในประเทศยุโรปเสียก่อน
• เนื่องจากวัคซีนโควิด-19 ของ แอสตราเซเนกา มีการส่งวัคซีนในทั่วโลก สิ่งที่เกิดขึ้นในยุโรป คือ มีผู้ป่วย 1 รายเสียชีวิต มีผู้ป่วยอีกหลายรายมีภาวะอาการลิ่มเลือดอุดตัน ทำให้ประเทศต่างๆ ทั่วยุโรปประกาศให้มีการชะลอการใช้วัคซีนโควิด-19 ออกไปก่อน เพื่อไปสืบค้นเพื่อความปลอดภัย ขอรอดูผลการสืบค้นเพื่อความปลอดภัยสูงสุดก่อน
• ในการฉีดวัคซีนให้คนจำนวนมาก มีโอกาสเกิดโรคหรือผลข้างเคียง เมื่อเกิดแล้วก็ต้องมีการชะลอใช้วัคซีนไปก่อน เพื่อสืบค้นหาสาเหตุ เมื่อมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นก็ต้องสอบสวน ให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัด การที่เราเลื่อนครั้งนี้ ไม่ได้บอกว่าวัคซีนไม่ดี แต่เราเลื่อนเพราะต้องการให้ไปตรวจสอบให้แน่ใจเสียก่อน งานนี้ไม่ได้บอกเลยว่าวัคซีนไม่ดี แล้วประเทศไทยเราไม่ได้เป็นประเทศเสี่ยงสูง ยืนยันว่าไม่ใช่ยุติการฉีด แต่เป็นการชะลอเพื่อให้มีความแน่ใจ
ขอบคุณข้อมูลและภา เฟซบุ๊ก - นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ