วันที่ 11 มี.ค.64 พลเอกณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)เดินทางมาตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของหน่วยป้องกันชายแดนในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรสีห์ ที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 146 ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมี นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการ จ.ประจวบคีรีขันธ์ รายงานสรุปผลการดำเนินงานเฝ้าระวังป้องกันคนต่างด้าวลักลอบเข้าประเทศตามแนวชายแดนพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีช่องทางหลักในการเดินทางเข้าออกระหว่างประเทศไทยและเมียนมา ที่จุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ต.คลองวาฬ และมีช่องทางธรรมชาติกว่า 40 จุด จากนั้น ผบ.ทบ. ได้ตรวจเยี่ยม พร้อมเน้นย้ำการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ทหาร บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังคนต่างด้าวลักลอบเข้าประเทศและสิ่งผิดกฎหมายตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวดต่อเนื่อง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ไม่อนุญาตให้บุคคลเดินทางเข้าออกผ่านจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร แต่ผ่อนผันให้สามารถนำเข้าส่งออกสินค้าแห้งและแช่แข็งได้วันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 08.030 – 16.30 น.โดยผู้ประกอบการนำเข้าส่งออกสินค้าไทย-เมียนมา ต้องแจ้งการนำเข้าส่งออกสินค้าให้จังหวัดทราบล่วงหน้า 1 วัน กำหนดจุดขนถ่ายสินค้าที่บริเวณแนวสันแดนหน้าศาลเจ้าพ่อหินกอง และต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 สำหรับช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดนมีการนำรั้วลวดหนามหีบเพลงปิดกั้น พร้อมจัดชุดเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวนเฝ้าระวัง ขณะที่ตำบลชายแดนทั้ง 8 อำเภอมีการตั้งจุดตรวจจุดสกัด 26 จุด มีรายงานว่า หน่วยงานฝ่ายความมั่นคงได้สั่งการให้จังหวัดซักซ้อมแนวทางจัดหาสถานที่พัก จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ทุกหน่วย เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์หากมีผู้ลี้ภัยการเมืองภายในประเทศเมียนมาหนีทะลักเข้ามาตามแนวชายแดนทั้งช่องทางหลักและช่องทางธรรมชาติ โดยเตรียมพร้อมสถานที่ไว้ภายในวัดแห่งหนึ่งที่หมู่ 6 ต.คลองวาฬ อ.เมือง เพื่อรองรับผู้อพยพ 300 ราย แต่คาดว่าสถานการณ์ภาพรวมจากการอพยพของชาวเมียนมาที่บ้านมูด่องตรงข้ามด่านสิงขรไม่น่ากังวล แต่เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนต้องเฝ้าระวังแรงงานต่างด้าวเถื่อนหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมายอาจใช้โอกาสแอบอ้าง เพื่อหลบหนีเข้าประเทศ ล่าสุดมีแรงงานเถื่อนที่ลักลอบหนีเข้าประเทศ มีผลตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด 19 แล้วอย่างน้อยจำนวน 4 ราย เข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.ประจวบคีรีขันธ์