ทริส คอร์ปอเรชั่น จัดสัมมนา TRIS Annual Forum ตามแนวคิด “Maturity in Privacy” เผยแพร่ความสำคัญของ Data Governance และ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มีผลบังคับใช้ 1 มิ.ย.64 ผ่านมุมมองวิทยากรผู้คร่ำหวอดในวงการ เพื่อเป็นประโยชน์แก่หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ บริษัทจดทะเบียน บริษัทเอกชน และบุคคลทั่วไป สามารถนำข้อมูลไปปรับใช้ พัฒนาการบริหารจัดการข้อมูล สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับองค์กร
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 หรือ (Personal Data Protection Act (PDPA) Compliance) เป็นกฎหมายใหม่ที่มีผลบังคับใช้ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 พ.ค.62 โดยในหมวดที่เกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจ จะมีผลบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 1 มิ.ย.64 ทำให้องค์กรธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ จะต้องปรับตัว ให้สอดคล้องกับกฎหมายดังกล่าว โดยเฉพาะองค์กรธุรกิจและบริษัทจดทะเบียนที่มีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าหรือพนักงาน ลูกจ้างไว้จะต้องทำความเข้าใจ เพื่อเตรียมการป้องกันไม่ให้เกิดการนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย
สำหรับธรรมาภิบาลข้อมูล หรือ Data Governance คือ แนวคิดและกระบวนการจัดการข้อมูลสำหรับองค์กรที่ให้ความสำคัญกับข้อมูลเป็นหลัก โดยเชื่อว่าข้อมูลนั้นเป็นทรัพย์สินที่มีค่าอย่างหนึ่งสำหรับองค์กรหรือที่มักเรียกกันว่า “Data as an Asset” ทำให้ต้องมีวิธีบริหารจัดการเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถูกต้อง และปลอดภัย เพื่อใช้ในการพัฒนาการบริหารจัดการข้อมูลองค์กร
โดยการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องจึงจำเป็นที่ต้องศึกษารายละเอียดกฎหมายอย่างรอบคอบ ซึ่งโทษของการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามนั้น อาจถูกปรับตั้งแต่ 5 แสนถึง 3 ล้านบาท ถูกจำคุก หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงโทษทางปกครองที่บทปรับสูงถึง 5 ล้านบาท แล้วแต่มาตราที่มีการฝ่าฝืนหรือไม่ทำตาม รวมถึงค่าสินไหมทดแทนที่เจ้าของข้อมูลส่วนตัวสามารถเรียกได้ตามที่ศาลเห็นสมควร ดังนั้น กฎหมายนี้จึงมีความสำคัญและเกี่ยวข้องกับทุกๆคนไม่ว่าจะเป็นประชาชนทั่วไปหรือแม้แต่ผู้ประกอบการขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่
“PDPA และ Data Governance มีความเกี่ยวข้องและส่งเสริมกัน ซึ่งองค์กรต่าง ๆ รวมถึงบริษัทจดทะเบียน ควรที่จะต้องทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ว่า PDPA มีขั้นตอนและแนวทางการทำงานอย่างไร เพื่อสามารถนำข้อมูลไปใช้ได้เหมาะสมและเกิดประโยชน์อย่างสูงสุดและเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเตรียมตัวในการรับมือการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น โดยไม่ส่งผลทางด้านลบและสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือขององค์กร”
ขณะเดียวกันยังเป็นการส่งเสริมด้านธรรมาภิบาลขององค์กร ในมุมของการปฎิบัติตามกฎหมาย สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียขององค์กรในภาคส่วนต่างๆ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อลูกค้าและประชาชนทั่วไป สร้างความสามารถในการแข่งขันและนำองค์กรไปสู่ความยั่งยืนต่อไป
นายสมพร จิตเป็นธม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทริส คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ทริส) เปิดเผยว่า ในฐานะที่ทริส คอร์ปอเรชั่น เป็นบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจด้านการบริหารพัฒนาองค์กร เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าว จึงจัดงานสัมมนาประจำปี 2564 TRIS Annual Forum ภายใต้แนวคิด “Maturity in Privacy”
โดยการจัดสัมมนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการ และสร้างความตระหนัก เกี่ยวกับ ธรรมาภิบาลข้อมูล (Data Governance) ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล (Data Privacy) และการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (Personal Data Protection Act (PDPA) Compliance) ให้กับหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และบริษัทเอกชน ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการเตรียมความพร้อม เพื่อทำความเข้าใจและค้นหาคำตอบเกี่ยวกับ Data Governance, Data Privacy และการปฏิบัติตามพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
ทั้งนี้ภายในงานได้รับเกียรติจาก คุณอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวเปิดงาน ร่วมด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ และวิทยากรผู้คร่ำหวอดในวงการ คุณวรรณวิทย์ อาขุบุตร ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้ข้อมูลหัวข้อ “Privacy สภาพบังคับ หรือ สภาพแข่งขัน” คุณนนทวัตต์ สาระมาน นายกสมาคมส่งเสริมนวัตกรรมเทคโนโลยีไซเบอร์ (CIPAT) และกรรมการสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย (Digital Council of Thailand) ในหัวข้อ “PDPA in Action (IT Solution)” และ ผศ.ดร.มัชฌิกา อ่องแตง อาจารย์ประจำวิทยาลัยนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และคณะอนุกรรมการ มาตรฐานปฏิบัติด้านเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain Standard of Practice) วสท. ในหัวข้อ “PDPA in Action (IT Solution)”
“บริษัทเชื่อว่างานสัมมนาครั้งนี้จะสามารถให้ผู้ที่มาร่วมงานได้รับความรู้ที่จะเป็นข้อมูลและแนวทาง นำไปปรับใช้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าธุรกิจและองค์กรของทุกท่านกำลังใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามขอบเขตของกฎหมาย และสร้างคุณค่าจากข้อมูลให้กับธุรกิจได้อย่างแท้จริง อีกทั้งยังเป็นการยกระดับความเชื่อมั่นในมาตรฐาน และการดำเนินงานเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลให้มีความโปร่งใส รับผิดชอบต่อสังคม สามารถตรวจสอบได้ รวมถึงสามารถสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับองค์กรได้อีกด้วย”