เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2564 ที่สถานีตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี โดยพลตำรวจตรีพัลลภ แอร่มหล้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี, พันตำรวจเอกอุกฤษ ภู่กลั่น รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี,พันตำรวจเอกพงศ์สุริยะ สุวรรณพันธ์ ผู้กำกับการกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี,พันตำรวจเอกสมชาย ชูแก้ว ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองลพบุรีร่วมทำการ แถลงข่าวการ จับกุม นายพฒน หรือโน้ต พูลสถาพร อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดลพบุรีที่ จ. 18/2564คดี “ลักทรัพย์ โดยได้ไปจับกุมที่ร้านอาหารอินดี้แอ๊ดสระบุรี เลขที่ 211/28 ถ.สุดบรรทัด ต.ปากเพรียว อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรีพร้อมด้วยของกลาง คือ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นสกุ๊ปปี้ ไอ สีดำ,เทา หมายเลขทะเบียน ตธต 211 อุบลราชธานี ที่ สภ.คลองหลวงจ.ปทุมธานี)
โดย วันที่ 11 ก.พ.2564 เจ้าหน้าตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองลพบุรี ได้รับแจ้งจาก น.ส.ธัญพร จารุจุฑารัตน์ อายุ 17 ปีอยู่บ้านเลขที่ 16 ม.8 ต.ธารเกษม อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี พร้อมกับพวกรวม 4 คน มาแจ้งวันที่ 11 ก.พ. 2564 เวลาประมาณ 13.00 น. ได้มีคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดมาลักทรัพย์ในโรงเรียนสาธิมหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง จ.ลพบุรี เป็นโทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง และ แท๊ปเลต ไอแพด จำนวน 3 เครื่อง รวม 6 เครื่อง มูลราคาทรัพย์สินรวมกว่า2๐๐,๐๐๐ บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จึงได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในโรงเรียนสาธิมหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง จ.ลพบุรี พบชายไทยไม่ทราบชื่อ-สกุล จำนวน 1 คน ขับขี่รถจักยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ สีดำ/เทา ทราบหมายเลขทะเบียนภายหลังคือ ตธต 211 อุบลราชธานี สวมหมวกกันน๊อคสีดำ ใส่เสื้อคอปกสีขาวด้านใน สวมเสื้อคลุมแขนยาว สีเข้ม กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบ ได้เดินเข้ามาในอาคารเรียนขณะที่เด็กนักเรียนโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรีกำลังทำการสอบอยู่ภายในห้องเรียน แล้วได้ทำการรื้อค้นกระเป๋าเด็กนักเรียน แล้วได้ลักทรัพย์ดังกล่าวไป
ต่อมาได้ทำการสืบสวนทราบว่าชายคนดังกล่าว นั้นได้ไปก่อเหตุลักทรัพย์กระเป๋าถือของอาจารย์สอนพิเศษที่วิทยาลัยเทคนิคลพบุรี ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 9 ก.พ.2564 เวลา07.00 น. ซึ่งการแต่งกายและรถที่ขับมาตรงกัน จึงเชื่อว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองลพบุรี ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า บุคคลดังกล่าวคือ นายพฒน หรือโน้ต พูลสถาพร อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 526/774 หมู่ที่ 2 ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง จ.นครราชสีมา จึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี ได้ขออนุมัติต่อศาลจังหวัดลพบุรีได้อนุมัติหมายจับ นายพฒน หรือโน้ต พูลสถาพร
ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดลพบุรีที่ จ.18/2564 โดยกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์ในสถานที่ราชการ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” ซึ่งต่อมาวันที่ 9 มีนาคม 64 ตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ได้ร่วมกันสืบสวนกับตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี และได้ร่วมกันจับกุมตัว นายพฒน หรือโน้ต พูลสถาพร ได้ที่ บริเวณร้านอาหารอินดี้แอ๊ดสระบุรี เลขที่ 211/28ถ.สุดบรรทัด ต.ปากเพรียว อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรีและนำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสืบสวนทราบว่า นายพฒน หรือโน้ต พูลสถาพร ได้เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันมาแล้ว ก่อนหน้าที่ จำนวนหลายครั้ง โดยเมื่อปี 51 นายพฒนฯ ได้ลักทรัพย์เป็นโทรศัพท์มือถือ รวมหลายรายการ ท้องที่ สน.หัวหมาก ถูกจับกุมได้ที่ ภายในการกีฬาแห่งประเทศไทย ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ
เมื่อปี พ.ศ.55 นายพฒนฯ ได้ลักทรัพย์เป็นโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต รวม 32 เครื่อง จากงานมหกรรมคอมแอนด์โมบายเฟสติวัลเชียงใหม่ 2012 ที่จัดขึ้นที่หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เขต สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
เมื่อปี พ.ศ.63 เมื่อวันที่ 19 ส.ค.63นาย พฒนฯ ได้ลักทรัพย์ โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น 11 สีขาว หมายเลขโทรศัพท์ 086-314-3097 ไว้บริเวณด้านหน้าอาคาร 1 ของโรงเรียนรงเรียนมัธยมสาธิต วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ท้องที่สน.บางเขน จ.กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 63 นาย พฒนฯ ได้ลักทรัพย์ กล้องถ่ายภาพดิจิตอล ยี่ห้อ Canon รุ่น EOS 60D ไปจากห้องสุนันทาโฟโต้ ชั้น 2 อาคาร 34 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ท้องที่ สน.สามเสน
ซึ่งจากการกระทำดังกล่าวของนายพฒนฯ ได้กระทำตามแบบแผนประทุษกรรมเดียวกันหรือคล้ายกันคือ แต่งตัวคล้ายนักศึกษา แล้วตีสนิทกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหรือบุคคลลอื่น แล้วเข้าไปทำการรื้อค้นทรัพย์สินตามโรงเรียนหรือสาธารณะต่างๆ จำนวนหลายครั้ง ลักษณะเป็นการลักทรัพย์ อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ เข้าข่ายมูลฐานความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน นอกจากดำเนินคดีความผิดเกี่ยวกับทรัพย์แล้วได้วางแผนการสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดความผิดตามกฏหมายฟอกเงิน และหากผู้กระทำผิดนำทรัพย์สินไปขายแล้วนำเงินที่ได้จากการลักทรัพย์ไปซื้อทรัพย์สิน จะติดตามทรัพย์สินที่ผู้กระทำผิดเปลี่ยนสภาพไปแล้ว เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการคืนให้กับผู้เสียหาย แม้จะมีการเปลี่ยนทรัพย์สินไปกี่ทอดก็ตาม
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โมทำอะไรท้องที่และรายได้จากการรับกลับมาชอบเที่ยวติดผู้หญิง ทำตัวเหมือนเสี่ย ชอบเปย์ผู้หญิง
เชื่อว่าผู้ก่อเหตุจะก่อเหตุลักษณะดังกล่าวที่มีแผนประทุษกรรมคล้ายกันอีกหลายท้องที่ หากท้องที่ใดมีเหตุลักษณะดังกล่าวให้ประสานข้อมูลได้ที่ สภ.เมืองลพบุรี