ยึดรถเก๋งต้องสงสัยนำศพสองสาวลาวทิ้งหมกป่า

ตำรวจกาฬสินธุ์ยึดรถเก๋งต้องสงสัยนำศพ 2 สาวสปป.ลาวทิ้งหมกป่ากาฬสินธุ์ หลังจากเชิญตัว 10 ชายต้องสงสัยมาสอบปากคำ พุ่งปมสังหารขัดแย้งธุรกิจมืด ฆ่าชิงทรัพย์ และยาเสพติด ความคืบหน้าพบศพ 2 สาวถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม ก่อนจะนำศพมาทิ้งไว้ภายในป่าละเมาะระหว่างหมู่บ้านกุดหว้า-หนองห้าง ในเขต ต.หนองห้าง อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ โดยจากการชันสูตรของเจ้าหน้าที่พบว่าถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ศีรษะเสียชีวิตทั้ง 2 ราย และมีญาติเดินทางเข้ามายืนยันกับตำรวจแล้วว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนคือนางกองคำ อายุ 40 ปี และนางสาวจันทร์สมร อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นชาวเมืองไชยบุรี แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว และเจ้าหน้าที่มุ่งปมสังหารชู้สาว ขัดแย้งธุรกิจมืด ยาเสพติด และฆ่าชิงทรัพย์ กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เชิญตัวชายต้องสงสัย 10 คน มาสอบปากคำ ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น.เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2559 พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ มอบหมายให้ พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ประสิทธิ์ จำปาทุม ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ พ.ต.ท.ศักดินันท์ มูลมณี รองผกก.สส.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.ท.อุทัย เพ็งธรรม รองผกก.สส.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.ท.ชัชชัย ไหมวันทา สว.สส.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ประชุมร่วมกับชุดสืบสวนทั้งหมด หลังจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.กุฉินารายณ์และชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ได้เชิญตัวชายต้องสงสัย 10 คน มาสอบปากคำ เนื่องจากการสืบสวนทางลับพบมีส่วนพันพันกับผู้ตายทั้ง 2 คน ประกอบกับการแกะรอยจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางพบรถเก๋งต้องสงสัย พร้อมกับยึดรถเก๋งยี่ห้อนิสอัลเมร่า สีขาว ทะเบียน กต 8063 ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นรถเช่าจากเต้นท์รถแห่งหนึ่งใน จ.ร้อยเอ็ด คาดว่าน่าจะเป็นรถที่นำศพทั้ง 2 คนไปทิ้งในป่า และรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าแจ๊ส สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นยานพาหนะที่ร่วมกันก่อเหตุ พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งตำรวจได้เชิญตัวชายต้องสงสัย 10 คนมาสอบปากคำ แต่เบื้องต้นหลายคนยังให้การวกไปวนมา ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงจะต้องแยกกันสอบปากคำ ส่วนรถเก๋งทั้งสองคัน โดยเฉพาะรถเก๋งยี่ห้อนิสอัลเมร่า สีขาว ทะเบียน กต 8063 ร้อยเอ็ด ซึ่งจากการสืบสวนคาดว่าน่าจะเป็นรถที่นำศพไปทิ้งในป่า และขณะอยู่ระหว่างการตรวจสอบรอยนิ้วมือ เก็บหลักฐานด้านนิติวิทยาศาสตร์ของเจ้าหน้าที่วิทยาการ ทั้งนี้เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายที่ลงมือน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 5 คน และเป็นคนในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ เพราะรู้จักพื้นที่ป่าในการทิ้งศพเป็นอย่างดี ส่วนประเด็นสังหารนั้นขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ตัดประเด็นชู้สาวออกไป ซึ่งเหลือประเด็นขัดแย้งธุรกิจมืด ฆ่าชิงทรัพย์ และยาเสพติด