ดนตรี/ทิวา สาระจูฑะ ในที่สุด… ผู้ก่อตั้งคนสุดท้ายของวงดนตรีเรกเก้ที่ทรงอิทธิพลที่สุดก็จากไปเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2021 บันนี เวเลอร์ อาจจะถูกพูดถึงน้อยกว่าเพื่อนที่ร่วมก่อตั้ง เดอะ เวเลอร์ส อีกสองคน คือ บ็อบ มาร์เล่ย์ และ ปีเตอร์ ทอช แต่เขามีส่วนอย่างมากในการสร้างสรรค์และจัดรูปแบบของดนตรีเรกเก้ และนำออกสู่โลกกว้าง จนได้การยอมรับว่าเป็นดนตรีหลักอีกประเภทหนึ่ง บันนี เวเลอร์ มีชื่อเดิม เนวิลล์ โอ’ไรลีย์ ลิวิงสตัน เกิดที่จาเมกา เมื่อปี 1947 เขาพบกับ บ็อบ มาร์เลย์ ตั้งแต่วัยเยาว์ ไม่ใช่เป็นเพื่อนสนิทกันเท่านั้น ต่อมาพ่อของ เวเลอร์ ก็ใช้ชีวิตอยู่กินเยี่ยงสามีภรรยากับแม่ของ มาร์เลย์ ในปี 1963 ทั้งสองร่วมกับเพื่อนสนิทอีกคน คือ ปีเตอร์ ทอช ก่อตั้งวงดนตรีชื่อ เดอะ เวลิง เวเลอร์ส โดย มาร์เลย์ รับหน้าที่กีตาร์, ทอช เล่นคีย์บอร์ด และ เวเลอร์ เล่นเพอร์คัสชั่น ทั้งหมดผลัดเปลี่ยนกันร้องนำ แต่ เวเลอร์ ไม่ได้ร้องนำมากเท่ากับ มาร์เลย์ และ ทอช ในผลงานยุคแรกของวง จนเมื่อ มาร์เลย์ ไปทำงานสั้นๆในอเมริกา ระหว่างปี 1966-1967 เวเลอร์ จึงมีบทบาทในการร้องนำมากขึ้น โดยเฉพาะกับเพลงที่เขาแต่งเอง การแต่งเพลงของ เวเลอร์ นั้นได้รับอิทธิพลจากดนตรีกอสเพลและศิลปินโซล เคอร์ติส เมย์ฟีลด์ แม้ว่า เวเลอร์ คือส่วนสำคัญในการประสานเสียงที่มีลักษณะพิเศษของวง แต่หลังจาก มาร์เล่ย์ กลับมา ผลงานการแต่งเพลงของ เวเลอร์ ก็ถูกใช้น้อยลง การแต่งเพลงหลักตกอยู่ในมือของ มาร์เล่ย์ เช่นเดียวกับการร้องนำ ในจำนวนเพลงที่ร้องนำไม่มากในผลงานของ เดอะ เวเลอร์ส ของ เวเลอร์ ก็ยังมีเพลงที่นักวิจารณ์หรือคอลัมนิสต์ฝั่งตะวันตกถือเป็นชิ้นงานคลาสสิค อย่าง “Dancing Shoes”, "Dreamland", "Riding High", "Brainwashing" และ "Keep On Moving" รวมถึงซิงเกิ้ลเดี่ยว "Pass It On" ในปี 1973 ทั้งสามผู้ก่อตั้งต่างก็เริ่มสร้างสังกัดเพลงของตนเอง ขณะที่ในนามวงก็ยังอยู่ภายใต้การดูแลของ ไอส์แลนด์ เรคอร์ดส์ นั่นหมายถึงมีรอยปริแยกมาก่อนแล้ว การทัวร์ยุโรปของ เดอะ เวเลอร์ส ประสบความสำเร็จอย่างดี ผู้ชมและนักฟังผิวขาวเริ่มให้ความสนใจดนตรีเรกเก้มากขึ้น แต่จุดสนใจของผู้ชมก็ไปอยู่ที่ มาร์เลย์ มากขึ้นเช่นกัน หลังการออกซิงเกิ้ลมาร่วมร้อย และอัลบั้มอีก 4 ชุด Burnin’ อัลบั้มที่ 5 ในปี 1973 ก็เป็นผลงานชุดสุดท้ายที่ 3 เพื่อนรักผู้ร่วมก่อตั้ง เดอะ เวเลอร์ส ได้ทำงานร่วมกัน ทอช และ เวเลอร์ จึงแยกทางจากวงไปทำผลงานเดี่ยว ชื่อวงถูกเปลี่ยนเป็น บ็อบ มาร์เล่ย์ แอนด์ เดอะ เวเลอร์ส ตั้งแต่นั้นมา รวมถึงความเปลี่ยนแปลงนักดนตรีภายในวงเป็นระยะ หลังออกจากวง เวเลอร์ เริ่มหาแนวทางดนตรีของตนอีกครั้ง ด้วยการทดลองผสมผสานเพลงเต้นรำกับดนตรีร็อคและเนื้อหาทางการเมือง เขาได้รับรางวัล แกรมมี่ สาขาอัลบั้มเรกเก้ยอดเยี่ยมถึง 3 ครั้งในปี 1991, 1994 และ 1997 รวมถึงได้อิสริยาภรณ์ขั้นสูงสุดอันดับ 4 จากรัฐบาลจาไมก้าในปี 2017 ช่วงระหว่างปี 2018-2020 เวเลอร์ เวียนเข้าออกโรงพยาบาลหลายครั้งจากโรคหลอดเลือดในสมอง และเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา เขาก็เสียชีวิตที่โรงพยายาบาลในเขตเซนต์แอนดรูว์, จาไมก้า ด้วยวัย 73 ปี บ็อบ มาร์เลย์ จากไปเมื่อเดือนพฤษภาคม 1981 ปีเตอร์ ทอช ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อเดือนกันยายน 1987 และตอนนี้ บันนี เวเลอร์ คงขึ้นไปบรรเลงเรกเก้ร่วมกับเพื่อนตรงไหนสักแห่งบนสวรรค์ดนตรี