เมื่อเวลาประมาณ 08.30 น. ของวันที่ 4 มีนาคม 2564 นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมคณะ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน และตรวจติดตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด COVID-19 ที่ส่งผลกระทบต่อสินค้าภาคการประมง ณ ตลาดกลางกุ้ง จังหวัดสมุทรสาคร ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยมีนายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายแพทย์นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สมาคมการประมงสมุทรสาคร และผู้แทนเจ้าของแพกุ้ง – แพปลา ในตลาดกลางกุ้งให้การต้อนรับ พร้อมกับรายงานสถานการณ์โควิด 19 ในสภาวะปัจจุบันของจังหวัดสมุทรสาครที่เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นตามลำดับ ขณะที่เศรษฐกิจในภาพรวมของตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาคร แต่เดิมก่อนที่จะเกิดการระบาดของโรคโควิด 19 นั้น ในตลาดกลางกุ้งมีเจ้าของแพกุ้งประมาณ 20 ราย และผู้ค้ารายย่อย (ที่มาเช่าแพ) ค้าขายอยู่ไม่ต่ำกว่า 50 ราย มีรายได้หมุนเวียนวันละกว่า 50 ล้านบาท ต่อมาเมื่อเกิดสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด 19 ทำให้ตลาดกลางกุ้งต้องหยุดค้าขายมาเป็นเวลานานกว่า 2 เดือน และเมื่อกลับมาเปิดตลาดได้อีกครั้งเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2564 ปรากฏว่ามีเจ้าของแพกุ้งฯ เหลืออยู่ประมาณ 10 กว่าราย และผู้ค้ารายย่อยอีกราวๆ 20 ราย ส่วนที่หายไปนั้นได้ไปเปิดทำการค้าขายที่อื่นแล้ว จึงทำให้เงินหมุนเวียนในตลาดกลางกุ้งลดลงไปด้วยเหลือเพียงแค่เกือบราวๆ 50 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 20 ล้านบาทต่อวันเท่านั้น ส่วนแรงงานข้ามชาติของแต่ละแพ ก็ยังคงมีการจ้างงานเหมือนเดิม โดยแต่ละแพใช้แรงงานประมาณ 40 – 50 คน แต่ที่เปลี่ยนแปลงไปคือ การจ้างงานเฉพาะแรงงานข้ามชาติที่ถูกต้องตามกฎหมาย และต้องปฏิบัติตนให้อยู่ภายใต้มาตรการที่สาธารณสุขกำหนด เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโควิด 19 นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ตามที่ได้รับมอบหมายจากนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้มาติดตามการปฏิบัติงาน และตรวจติดตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด COVID-19 ที่ส่งผลกระทบต่อสินค้าภาคการประมง ที่ตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาคร ในครั้งนี้ ก็เนื่องด้วยตลาดกลางกุ้งเป็นตลาดศูนย์กลางค้าขายกุ้งและปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค และเพื่อเป็นกำลังใจให้กับพ่อค้า แม่ค้า ผู้ประกอบธุรกิจแพปลา แพกุ้ง ตลอดจนเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากโควิดรุนแรงมากที่สุด โดยในวันนี้ก็ต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้ความไว้วางใจและเชื่อมั่นต่อตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาคร เพราะสิ่งนี้จะเป็นสัญลักษณ์ที่บอกไปถึงพี่น้องทั่วทั้งประเทศ และผู้ซื้อกุ้งทั้งในและต่างประเทศด้วยว่า รัฐบาลมีการแก้ไขปัญหาโควิด จนตลาดกลางกุ้งมีความปลอดภัย อันจะส่งผลต่อการเปิดเศรษฐกิจและธุรกิจให้กลับมาเหมือนเดิมได้อีกครั้ง ด้านนายจตุพน มลมาลา เจ้าของแพต้นอ้อ บอกว่า ทุกวันนี้ตลาดกลางกุ้งมีสภาพที่ดีขึ้นมาก ทั้งเรื่องความสะอาด และการจัดระเบียบการค้าขาย การทำงาน รวมถึงการปฏิบัติตามมาตรการของทางสาธารณสุข เป็นสถานที่ปลอดภัยจากเชื้อโควิด 19 แล้ว ส่วนการค้าขายแต่เดิมก่อนเจอพิษโควิดฯ ระลอกที่ 2 นั้นก็เป็นไปอย่างคึกคัก พอตอนนี้เมื่อตลาดเพิ่งเริ่มกลับมาเปิดก็อาจจะยังเงียบเหงาไปบ้าง เพราะเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งบางรายก็ยังไม่ค่อยมั่นใจว่า ราคาสินค้าจะเป็นอย่างไร คงจะต้องรอดูอีกระยะหนึ่ง ถึงจะรู้ว่าราคาขยับขึ้นลงมากน้อยแค่ไหน แต่ ณ ปัจจุบันราคาก็เริ่มดีขึ้นแล้วมีการขยับขึ้นมาอีกกิโลกรัมละ 30 – 50 บาท ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งมีกำลังใจที่จะเลี้ยงกุ้งต่อไป เพราะถ้าราคาตกต่ำมากกว่านี้คนบ่อก็จะอยู่ไม่ได้ ส่วนเรื่องที่อยากจะฝากถึงรัฐบาลคือ การออกใบอนุญาตเพื่อการส่งออก ให้แก่เกษตรกรกุ้งก้ามกรามและปลากะพงขาวในพื้นที่ภาคกลาง เนื่องจากมีเกษตรกรเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกรามและปลากะพงขาวเป็นจำนวนมาก จึงอยากขอให้ช่วยเพิ่มจำนวนโควต้าของใบ GAP (GOOD PRACTICES ) ให้แก่เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกรามและปลากะพงขาวให้ครอบคลุมทุกจังหวัดในพื้นที่ภาคกลาง เพื่อเป็นมาตรฐานในการส่งออกและการค้าระดับสากล และยังต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือในการสร้างความเข้าใจต่อผู้ซื้อต่างประเทศ เลิกกีดกันหรือเหยียดสินค้าสัตว์น้ำ โดยเฉพาะกุ้งจากประเทศไทย เพียงเพราะเชื่อว่ามีเชื้อโควิดติดไปกับสินค้าเหล่านั้น ทั้งๆที่กุ้งไทยปลอดภัย ปลอดเชื้อ.