วันที่ 4 มี.ค.64 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทยพูดถึงการพิจารณาให้ความช่วยเหลือนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ เดอะ บอททอมบลูส์ ที่ศาลอาญาออกหมายจับคดีเกี่ยวกับการเผาทำลายทรัพย์สินของทางราชการหน้าเรือนจำคลองเปรม ว่า ตนเองอยากเตือนด้วยความหวังดีกับพรรคเพื่อไทยว่าไม่ควรที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือยื่นมือเข้าไปให้ความช่วยเหลือ เพราะแม้จะเป็นนักเคลื่อนไหวแต่ก็ถือว่าเป็นผู้ที่ได้กระทำผิดกฎหมาย นอกจากนี้นายไชยอมรก็ได้ออกมายอมรับเองแล้วว่าเป็นผู้กระทำความผิดจริง ดังนั้นก่อนที่พรรคเพื่อไทยจะเข้าไปช่วยเหลือใครก็ขอให้พิจารณาไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน "หากพรรคเพื่อไทยอยากจะเข้าไปช่วยเหลือนักเคลื่อนไหวแนวร่วมกลุ่มราษฎร ผมเองก็มองว่าเป็นสิทธิของพรรคเพื่อไทย แต่การเข้าไปช่วยเหลือคนที่ออกมา ยอมรับว่าทำผิดกฎหมาย และเบื้องต้นมีความผิดทั้งข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ ความผิดตามมาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ยิ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเข้าไปช่วยเหลืออย่างยิ่ง เพราะอาจทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศที่จงรักภักดีต่อสถาบันไม่พอใจกับการกระทำของพรรคเพื่อไทย มองพรรคเพื่อไทยว่าเป็นพวกเดียวกันกับม็อบ 3 นิ้ว และในที่สุดพรรคเพื่อไทยอาจหมดอนาคตทางการเมืองได้" นายสุภรณ์ กล่าวต่อว่าการที่นายประเสริฐ ออกมาแสดงความคิดช่วยเหลือเช่นนี้อาจจะเข้าข่ายเป็นการให้ท้ายหรือสนับสนุนให้ทำผิดกฎหมายมาตรา 112 ให้ระวังดีๆ ถ้ามีการเลือกตั้งสมัยหน้าในเขตเลือกตั้งทุกเขตทั่วประเทศผู้สมัครพรรคเพื่อไทยอาจจะโดนประชาชนขับไล่ เหมือนแกนนำกลุ่มก้าวหน้า นำโดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยะบุตร แสงกนกกุล น.ส.พรรณิการ์ วานิช ในขณะลงหาเสียงเลือกตั้งนายกอบจ.ที่ผ่านมาจนแพ้เลือกตั้งราบคาบทุกจังหวัดไม่ได้นายกอบจ.แม้แต่คนเดียว เช่นเดียวกัน พรรคเพื่อไทยไม่กลัวประชาชนจะมองเป็นพรรคร่วมมือทำลายสถาบันเบื้องสูงกับคนกลุ่มนี้หรือ ระวังประชาชนจะออกมาขับไล่เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด พึงระวังอย่าฝืนกระแสประชาชนเด็ดขาดเผลอๆสอบตกหมดทุกเขตใครจะไปรู้ได้ ตนเตือนมาด้วยความหวังดี ไม่เชื่อก็ลองดูอย่าท้าทายอำนาจประชาชนที่จงรักภักดีปกป้องสถาบัน จะหาว่าแรมโบ้ไม่เตือน