นายอำเภอหล่มเก่า สุดทนชายโรคจิตโทรข่มขู่เอาชีวิตรายวันให้หยุดรื้อถอนรีสอร์ทภูทับเบิก เข้าแจ้งความกับตำรวจเพิ่มเพื่อให้บันทึกไว้เป็นหลักฐาน ด้านผู้ว่า ฯ เพชรบูรณ์ ระบุการรื้อถอนรีสอร์ทที่ผิดกฎหมายบนภูทับเบิก เป็นการดำเนินการ ตามแผนแม่บทของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อแก้ไขผลกระทบด้านต่าง ๆ เพชรบูรณ์ : ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2559 นายชาญชัย ศรศรีวิชัย นายอำเภอหล่มเก่า กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีชายลึกลับโทรมาข่มขู่มุ่งเอาชีวิตเจ้าหน้าที่หากไม่ยังไม่ยอมยุติการรื้อถอนรีสอร์ทบนภูทับเบิก จนแทบเป็นรายวัน เชื่อว่าเป็นพวกก่อกวนหรือโรคจิต และ ได้ยินเสียงพูดภาษาไทยไม่ค่อยชัด จึงรู้ว่าเป็นเจ้าเก่ารายเดิม นอกจากจะด่าทอแล้วยังลามปรามไปถึงผู้บังคับบัญชา และ ข้าราชการระดับสูงในหน่วยงานอื่นอีก จนเกิดอาการโมโหกระทั่งต้องด่าสวนกลับไป และ ที่ต้องแจ้งความเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สภ.หล่มเก่า ก็เพียงแค่แจ้งบันทึกไว้เป็นหลักฐานเพราะพฤติกรรมของผู้โทรข่มขู่ในรายนี้ เป็นการข่มขู่พนักงานเจ้าหน้าที่ และ เป็นการท้าทายกฎหมายโดยมีหลักฐานประจักษ์จึงแจ้งประสานให้เข้าแจ้งความความร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มเติม ด้านนายชาญวิทย์ เฟื่องฟูกิจการ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย สมาคมพ่อค้าม้งไทยและที่ปรึกษากลุ่มรีสอร์ตร้านค้าภูทับเบิก กล่าวว่า เท่าที่มีโอกาสรับฟังคลิปเสียงจากสื่อทีวีบางแห่ง ที่นำเสนอเป็นบางช่วงบางตอนซึ่งช่วงแรกฟังแล้วสำเนียงการพูดคล้าย จะเลียนเสียงสำเนียงการพูดให้เป็นชาวม้งแต่พอช่วงท้าย ๆ ค่อนข้างชัดเจนว่าไม่ใช่ชาวม้งแน่นอน เสียดายที่คลิปเสียงดังกล่าวมีแค่เพียงช่วงสั้น ๆ เท่านั้น จึงมีข้อจำกัดในการแยกแยะ ส่วนการที่ป่าไม้แจ้งความเอาผิดกับแกนนำม็อบปิดถนนเพิ่มเติมนั้น เห็นว่าไม่เหมาะสมเพราะยิ่งทำให้สถานการณ์ดูแย่ลง เพราะการแจ้งจับแกนนำ 4 คนแรก ตอนนี้ในสายตาชาวม้งก็ดูไม่ดีอยู่แล้ว เนื่องจากคนเหล่านี้ได้รับการไหว้วานจากทางเจ้าหน้าที่ให้ช่วยเป็นคนกลาง มาชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ชุมนุมปิดถนนจนเวลานี้คนเหล่านี้เริ่มปฎิเสธ หากทางราชการจะขอความร่วมมือมาอีก ฉะนั้น หากจำเป็นต้องปฎิบัติตามกฎหมายจริง ๆ ก็ควรตรวจสอบให้ดี และ เอาผิดกับคนที่กระทำผิดจริง ๆ ด้านนายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า พื้นที่ป่าไม้บนภูทับเบิกอำเภอหล่มเก่า เป็นพื้นที่ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำชั้น 1 เอ และ 1บี ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญของแม่น้ำป่าสัก โดยพื้นที่ได้ถูกบุกรุกถือครอง โดยฝ่าฝืนกฎหมาย และนำไปก่อสร้างโรงแรมที่พักและร้านค้าที่มีวัตถุประสงค์ในทางธุรกิจ รวมทั้งปิดกั้นทางไหลของน้ำ ซึ่งเสี่ยงต่อการพังทลายของดิน อาจก่อให้เกิดอุบัติภัยและความเสียหาย แก่ชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ได้ ดังนั้น จังหวัดเพชรบูรณ์จึงจำเป็นต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาภูทับเบิก ซึ่งเป็นขั้นตอน 1 ตามแผนแม่บทของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาพื้นที่บนภูทับเบิกจะไม่กระทบกับประชาชนที่อาศัยอยู่เดิมและขออภัยในความไม่สะดวกในการขึ้นไปท่องเที่ยวภูทับเบิกในช่วงนี้ด้วย