อช.ภูกระดึง เปิดปฎิบัติการลาดตะเวนคุณภาพ ส่งชุดสายตรวจคลุมพื้นที่ป่าทุกวัน รายงานสถานการณ์ทุก 30 นาที เฝ้าระวังมอดไม้-พรานป่า ในเขตรอยต่อเชื่อม 3 จังหวัด เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 3 มี.ค.2564 ที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง อ.ภูกระดึง จ.เลย นายคมกริช เศรษบุบผา ผู้อำนวยการส่วนจัดการท่องเที่ยวและนันทนาการ สำนักอุทยานแห่งชาติแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินงานของศูนย์ลาดตระเวนเชิงคุณภาพ Smart Patrol โดยมี นายสำเร็จ ภูแสนศรี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย นำคณะร่วมติดตามผลการดำเนินงานตามแผนการดำเนินงานของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมทั้งลงพื้นที่สำรวจเส้นทางและการปฎิบัติงานของชุดสายตรวจอุทยานฯในพื้นที่ที่รับผิดชอบอย่างเข้มงวด นายสำเร็จ ภูแสนศรี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย กล่าวว่า การลาดตระเวนเชิงคุณภาพของอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ดำเนินงานปีนี้เข้าสู่ปีที่ 3 ในพื้นที่ความรับผิดชอบของอุทยานฯ รวมกว่า 200,000 ไร่ ซึ่งเชื่อมต่อ จ.เลย,ขอนแกนและ จ.เพชรบูรณ์ โดยการดำเนินงานนั้นได้มีการกำหนดชุดสายตรวจ รวม10 ชุด ประกอบด้วยชุดสายตรวจของหน่วยพิทักษ์ป่าฯ 6 ชุด ชุดสายตรวจของจุดสกัด 2 ชุดและชุดสายตรวจส่วนกลางของอุทยานฯอีก 2 ชุด ซึ่งแต่ละชุดจะมีเจ้าหน้าที่ไม่น้อยกว่า 5 คน ในการออกปฎิบัติงานแต่ละครั้ง และใน 1 ชุดจะต้องมีอุปกรณ์หลักที่สำคัญประกอบด้วยอาวุธ ,เครื่องระบุตำแหน่งหรือจีพีเอส,กล้องถ่ายรูปและแบบบันทึกข้อมูล Smart Patrol ของกรมอุทยานฯ ทำการออกตรวจครอบคลุมทุกพื้นที่คลอดทั้งเดือน สรุปคือทุกวันจะมีเจ้าหน้าที่สายตรวจอยู่ในพื้นที่ป่าของอุทยานทุกวัน เพราะเราต้องดู ต้องติดตาม ป้องกันไม่ให้หมดไป ขณะที่หากพบเจอในสิ่งที่ไม่ดีหรือของไม่ดีเราอุทยานก็ต้องวางแนวทางการป้องกันอย่างเข้มงวด “ ชุดสายตรวจทุกชุดจะต้องรายงานพิกัดที่ตั้งของการตรวจให้กับศูนย์สั่งการของอุทยานฯ เพื่อรายงานต่อไปตามลำดับชั้นจนถึงระดับกรมฯ ในทุก 30 นาที และทุกการเดินตรวจ 10-20 เมตร จะต้องถ่ายภาพรายงานและระบุพิกัด รวมทั้งรายงานผลการตรวจสอบสภาพเส้นทางและพื้นที่ว่าพบอะไรบ้างและหากพบสิ่งผิดปกติที่เป็นภัยคุกคาม หรือพบเหตุการณ์หรือร่องรอยต่างๆ ไม่ว่าจะรอยสัตว์ป่า,กองไฟ,ต้นไม้ทางนิเวศ,สัตว์ประเภทต่างๆที่ทิ้งร่องรอยไว้ ,การลักลอบตัดไม้หรือการล่าสัตว์ ซึ่งจากการดำเนินงานที่ผ่านมาการตรวจสอบของอุทยานฯของเรานั้นครอบคลุมพื้นที่ไปแล้ว 99% อีก 1% คือพื้นที่ที่เป็นหน้าผา ” นายสำเร็จ กล่าวต่ออีกว่า ทุกสิ่งที่ตรวจพบจากการเดินตรวจของสายตรวจนั้นจะมีการบันทึกภาพและลงข้อมูลในระบบที่กรมฯกำหนด เพื่อที่จะประเมินสถานการณ์และตรวจติดตามในฐานข้อมูลที่เปรียบเทียบ ในเส้นทางการเดินป่าในพื้นที่ทุกตารางเมตรที่กำหนด จนทำให้รู้ช่วงเวลาในแต่ละเดือนว่าช่วงนี้อุทยานจะต้องเฝ้าระวังหรือจัดกำลังเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมหรือเสริมในจุดใด โดยเฉพาะในเรื่องของการลักลอบตัดไม้และล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานเป็นสิ่งที่อุทยานฯของเรานั้นเฝ้าระวังและกวดขันจับกุมอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามในการออกปฎิบัติการนั้นเน้นหนักในเรื่องของความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่เป็นสำคัญอีกด้วย