วันที่ 3 มี.ค.64 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีพาสปอร์ตวัคซีน ว่า ทำอยู่เป็นเรื่องที่กระทรวงสาธารณสุขกำลังดำเนินการ ภายใต้การดูแลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ดังนั้นต้องรอให้ทางกระทรวงสาธารณสุขพิจารณาให้แล้วก่อน ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีผ่อนปรนมาตรการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความเป็นห่วงว่าจะยังมีการแพร่ระบาดโควิด-19 พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ในวันเดียวกันนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ตนพิจารณา ตอนนี้รอทางด้านสาธารณสุขประเมินสถานการณ์ คาดว่ากลางเดือนมีนาคมนี้ หากสถานการณ์ชัดเจนขึ้นจะมีการลดระดับลงไปอีก เพื่อเตรียมผ่อนคลายในช่วงสงกรานต์ และได้ประสานกระทรวงสาธารณสุขเพื่อที่จะผ่อนคลายมาตรการกักตัวสำหรับคนที่จะเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย นี่เป็นสองเรื่องใหญ่ๆที่นายกสั่งการมายังศบค. และทางศบค. ชุดเล็กก็ต้องนำมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่งแต่ก็ต้องการให้ผ่อนคลายเพื่อเป็นของขวัญกับคนไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ผู้สื่อข่าวถามว่า คาดว่าสถานการณ์ในช่วงนี้จะกลับมาเป็นปกติได้แล้วหรือยัง เลขาฯสมช. กล่าวว่า หากไม่มีสถานะการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เราก็จะค่อยๆดีขึ้น ตามสถานการณ์ที่กระทรวงสาธารณสุขควบคุมอยู่ใน ปัจจุบันนี้ เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาใดเว้นแต่จะมีสิ่งใดที่ไม่คาดคิด เช่น ในกรณีที่มีการปกปิดข้อมูล ที่ไม่ให้กับเจ้าหน้าที่ แต่ข้อมูลที่เปิดเผยในปัจจุบันนี้คาดว่าดีขึ้นเรื่อยๆ ผู้สื่อข่าวถาม สถานการณ์การแพร่ระบาด โควิด-19 ในขณะนี้จะเป็นสัญญาณได้หรือไม่ว่าถึงเวลาที่จะผ่อนคลายให้คนไทยเล่นสงกรานต์ได้แล้ว พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ได้เพราะเราคงต้องอยู่กับตัวเลขการแพร่ระบาด โควิด-19 ประมาณนี้ คงไม่ได้อยู่กับตัวเลขเป็นศูนย์อีกแล้ว เพราะตัวเลขหลัก 10 ทางกระทรวงสาธารณสุขสามารถควบคุมจัดการได้ ซึ่งจะทำให้เราผ่อนคลายมาตรการได้มากขึ้น และจากที่ได้เรียนให้นายกรัฐมนตรีทราบว่า หากกระทรวงสาธารณสุขประเมินว่าเราสามารถผ่อนคลายได้กลางเดือนมีนาคมนี้เราก็จะได้ลดระดับลงไปอีกจากระดับในปัจจุบัน ผู้สื่อข่าวถามถึงมาตรการผ่อนคลายเรื่องการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เลขาฯสมช. กล่าวว่า เรื่องนี้ตนได้เรียนกับนายกรัฐมนตรีแล้ว เพราะมีมาตรการบางอย่างซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่เราก็ต้องเตรียมแผนที่จะลดระดับลง อาจจะภายใน2-3 เดือนข้างหน้าเพื่อที่จะใช้กฎหมายปกติ เพราะบางเรื่องยังมีความจำเป็นที่จะต้องใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่ เพราะจากการสอบถามหลายคก็ บอกว่าแทบจะไม่รู้สึกเลยว่าใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่ เพราะปัจจุบันทางศบค. ใช้อำนาจตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินเพียงเรื่องการป้องกันโรคติดต่อ จึงขอความเห็นใจและความกรุณาจากพี่น้องประชาชนว่า เรามีความจำเป็นและมีความปลอดภัย เราใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินแค่ไหนเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาด โควิด-19 และขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการมาแล้ว เตรียมการเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นใช้กฎหมายปกติ สิ่งที่สำคัญและมีความจำเป็น เช่น การเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยทุกประเทศเรายังมีความจำเป็นต้องใช้กฎหมายนี้อยู่ แต่ถ้าเราไม่ได้ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้วใช้กฎหมายปกติ อาจจะไม่สามารถทำได้อย่างในปัจจุบัน แต่ถ้าสถานการณ์ดีขึ้นก็ไม่จำเป็นต้องทำเหมือนปัจจุบัน สามารถที่จะไม่ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้