ชาว อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี โวยรถบรรทุกอ้อยส่งโรงงานน้ำตาลหนักเกิน ทำถนนพัง เกิดอุบัติเหตุคนเจ็บ-ตายแล้วหลายครั้ง ต้องใช้งบปรับปรุงถนนปีละหลายร้อยล้านบาท จี้ผู้ว่าฯ-ผู้บังคับการตำรวจฯ ช่วยแก้ปัญหา สื่อตรวจสอบพบบรรทุกเกินกฎหมายกำหนด ไร้มาตรการความปลอดภัยขณะขนส่ง จี้ดำเนินคดีเด็ดขาดเพื่อความปลอดภัยประชาชน ปัญหาเรื่องรถบรรทุกอ้อยที่ปัจจุบันได้สร้างความเดือดร้อน ให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนด้วยกัน โดยล่าสุดวันที่ 27 ก.พ. 2564 เวลา 00.20 น. นายพิษณุ พิมพ์โคตร อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 342 ม.3 ต.ดงเมืองแอม อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ขับรถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า ทะเบียน กษ-7711 ขอนแก่น เดินทางมาพร้อมกับ นางสาวนันท์ชพร เคนาอุประ อายุ 28 ปี ที่อยู่ 107 หมู่ 1 ต.นาดี อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ มาบน บนถนนสายบ้านผือ-นาคำไฮ บ้านดอนหอ หมู่ 6 ต.ข้าวสาร อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ก่อนที่จะหักหลบกองอ้อยที่หล่นอยู่กลางถนนทำให้รถเสียหลักลงข้างทางชนกับเสาไฟฟ้าทำให้ นางสาวนันท์ชพร และล่าสุดคืนที่ผ่านมา (2 มี.ค.) บนถนนบ้านผือ – น้ำโสม (หน้าลานมันแสงสวรรค์) รถยนต์เก๋งขับชนกองอ้อยที่หล่นอยู่กลางถนนทำให้รถเสียหาย โชคดีคนขับปลอดภัย ทั้งนี้ผู้ขับขี่และนักท่องเที่ยวที่ใช้ถนนทางหลวงในเขต อ.บ้านผือ ในหลายเส้นทาง สัญจรผ่านไปมาร้องเรียนว่า ได้รับความเดือดร้อนจากรถบรรทุกอ้อยเหล่านี้ ซึ่งไม่เพียงจะมีต้นอ้อยที่รถบรรทุกเหล่านี้ทำตกหล่นเรี่ยราดบนถนนแล้ว บางครั้งยังมีต้นอ้อยปลิวกระเด็นออกจากกระบะบรรทุกจนเกือบตกใส่รถที่วิ่งตามหลังมาหรือกำลังจะขับแซง จนทำให้คนขับตกใจและพยายามหักพวงมาลัยหลบต้นอ้อยจนหวุดหวิดจะทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น จึงต่างพากันตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องถึงปล่อยปละละเลยไม่มีการเข้มงวดและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง นอกจากนี้เรียกร้องให้มีการกำหนดมาตรการ เพื่อไม่ให้ผู้ขับขี่คนอื่นต้องได้รับผลกระทบหรือได้รับความเดือดร้อนตามไปด้วย โดยรถบรรทุกอ้อยควรมีผ้าใบหรือตาข่ายคลุมกระบะบรรทุก ป้องก้นไม่ให้เศษต้นอ้อยปลิวกระเด็นหลุดออกมา ขณะเดียวกันยังมีรถบรรทุกอีกส่วนหนึ่งที่แสดงความมักง่ายไม่ยอมติดธงแดงไว้ส่วนท้ายของกระบะหรือพ่วงบรรทุก เพื่อแสดงให้คนที่ขับรถตามหลังมาสังเกตเห็นได้ง่าย รวมทั้งยังมีรถบรรทุกอ้อยอีกบางส่วนที่ไม่ยอมติดสัญญาณไฟไว้ส่วนท้ายและด้านข้างของกระบะบรรทุกเช่นกัน ซึ่งเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ก่อนหน้านี้มีรถประสบอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง โดยชาวบ้านในพื้นที่ อ.บ้านผือ ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนตรงกันว่า ขณะนี้ผู้ใช้รถใช้ถนนในพื้นที่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เส้นทางที่มุ่งหน้าสู่โรงงานน้ำตาล พื้นที่ ต.คำบง อ.บ้านผือ หลายสายต่างพากันเดือดร้อน เนื่องจากถนนพังแตกร้าวกลายเป็นหลุมบ่อตื้นลึกขนาดต่างๆ มีร่องปูดนูนขึ้นกลางถนน ทั้งนี้ เนื่องจากรถบรรทุก 10 ล้อ ที่บรรทุกอ้อยที่น้ำหนักมากกว่า 30 ตัน บางคันมีพ่วงท้ายรวมน้ำหนักคันหน้า และพ่วงมากกว่า 60 ตัน วิ่งผ่าน แต่สภาพถนนสามารถรองรับได้ไม่ถึง 30 ตัน ถนนบางสายต้องใช้งบประมาณของกรมทางหลวงซ่อมแซมทุกปีๆ ละไม่รู้กี่ร้อยล้านบาท ความเดือดร้อนนอกจากถนนจะพังเสียหายแล้ว รถบรรทุก 10 ล้อ ได้มีการดัดแปลงตัวถังให้ยื่นออกจากตัวรถทั้งด้านหน้าด้าน-หลัง และด้านบน เพื่อให้บรรทุกได้มากขึ้น เมื่อน้ำหนักเกิน ส่งผลให้มีท่อนอ้อยตกเรี่ยราดกลางถนน บางครั้งอ้อยที่บรรทุกเกินเกิดการพังทลายลงมากองอยู่กับพื้นครั้งละหลายตันทำให้กีดขวางการจราจร ทั้งนี้อยากให้ นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ,พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ให้เอาจริงกับปัญหานี้ เพราะงบประมาณแต่ละปีที่นำมาปรับปรุงซ่อมแซมถนนที่รถบรรทุกอ้อยที่น้ำหนักเกินวิ่งผ่านใช้ไปปีละไม่รู้กี่ร้อยล้านบาท ควรนำตราชั่งมาชั่งรถบรรทุกอ้อยที่บรรทุกเกินน้ำหนัก หากเกินก็ให้ดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาดทุกราย เพราะกฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ไม่มีการยกเว้นต้องบังคับใช้ให้เสมอภาคกัน.