"รมว.ยุติธรรม"รู้ตัวคนบงการวางเพลิงหน้าเรือนจำคลองเปรมแล้ว หลังสั่ง"ชุดพาลีปราบยา"สืบเชิงลึก เตรียมขอหมายจับ ชี้โทษหนักหลายข้อหา
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 2 มี.ค.64 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความคืบหน้าการติดตามกรณีคนร้ายวางเพลิงป้ายและทำลายทรัพย์สิน บริเวณหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม ว่า หลังจากกรมราชทัณฑ์แจ้งความเอาผิดกับผู้กระทำผิด พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดของเรือนจำที่สามารถจับภาพคนร้ายได้ มีผู้ต้องสงสัย 3 คน เป็นชาย 2 คน และหญิง 1 คน โดยการติดตามภาพจากกล้องวงจรปิดไปจนถึงที่พัก และพบว่ามีความเชื่อมโยงทางการเมือง สำหรับกระทรวงยุติธรรมหลังจากได้ทราบถึงกลุ่มผู้ก่อเหตุวางเพลิง ตนจึงสั่งการให้คณะทำงานเฉพาะกิจชื่อว่าคณะทำงาน "พาลีปราบยา" ของกระทรวงยุติธรรม ช่วยทำการสืบสวนเชิงลึกในกรณีดังกล่าว ทำให้ขณะนี้เราได้ข้อมูลสำคัญที่ทำให้ทราบถึงตัวการสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุดังกล่าว รวมถึงได้ข้อมูลสำคัญที่ทำให้ทราบถึงบุคคลและกลุ่มบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการเผยแพร่ภาพดังกล่าวเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ หรือเผยแพร่ในสื่อโซเชียลด้วย ซึ่งคาดว่าจะสามารถออกหมายจับดำเนินคดีได้ทั้งกลุ่มผู้ลงมือ และกลุ่มผู้ร่วมขบวนการและตัวการสำคัญในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน
รมว.ยุติธรรม กล่าวอีกว่า กระทรวงยุติธรรมมีคณะทำงานเฉพาะกิจคือ พาลีปราบยา จึงให้ช่วยสืบสวนข้อมูลเชิงลึก ทำให้ทราบถึงผู้บงการสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุ รวมถึงคนเผยแพร่ข้อมูลความมั่นคงลงในโลกโซเชียล การสืบสวนในครั้งนี้ทำให้ได้ข้อมูลที่สมบูรณ์มากขึ้นในการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด เพราะจากข้อมูลของตำรวจเกี่ยวกับผู้กระทำผิดมีหลักฐานที่ชัดเจนทำให้เราสืบต่อไปได้ เรื่องนี้ตนยอมไม่ได้ เพราะเป็นความผิดที่ร้ายแรง ทั้งการบุกทำลายทรัพย์สินของราชการในยามวิกาล และเรือนจำกลางคลองเปรมเป็นสถานที่ความมั่นคงสูง รวมถึงการนำข้อมูลความมั่นคงเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ข้อหาเหล่านี้เป็นข้อหาหนัก เราต้องนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้เป็นเยี่ยงอย่างโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าขณะนี้ได้ตัวผู้บงการแล้วใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ต้องบอกว่ารู้ โดยจะส่งข้อมูลไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในการออกหมาย เมื่อถามว่า จะไปดำเนินการแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ปอท.) หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของตำรวจท้องที่