นรข.เขตหนองคาย (สถานีเรือสังคม) ร่วม ทหาร กกล.สุรศักดิ์มนตรี ฝ่ายปกครองอำเภอสังคม บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวบสองหนุ่มสาวชาวเพชรบูรณ์ขับกระบะมารอรับยาบ้าริมแม่น้ำโขง ของกลาง ยาบ้า ไอซ์ อาวุธปืน กระสุนปืน รถยนต์ 2 คัน วันที่ 1 มี.ค. 2564 ณ สถานีเรือสังคม (นรข.เขตหนองคาย) ต.สังคม อ.สังคม จ.หนองคาย ร.อ.ไพรสน พลเสน รักษาราชการแทนหัวหน้าสถานีเรือสังคม พร้อมเจ้าหน้าที่ นรข.เขตหนองคาย (สถานีเรือสังคม) , นายสมศักดิ์ สาลี ปลัดป้องกันอำเภอสังคม พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ,ร.ต.เศรษฐ์สัณห์ เบียดขุนทด รอง ผบ.มว.เคลื่อนที่เร็วที่ 1 ร้อยเคลื่อนที่เร็วที่ 2 (QRF) พร้อมเจ้าหน้าที่ ทหาร กกล.สุรศักดิ์มนตรี,เจ้าหน้าที่ชุด ชรบ.หมู่บ้านตำบลสังคม ,เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังคม โดยการอำนวยการของ พล.ร.ต.จรัสเกียรติ ไชยพันธุ์ ผบ.นรข. ,พล.ต.บุญสิน พาดกลาง ผบ.กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ,พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ ผบก.ภ.จังหวัดหนองคาย ,น.อ.ราฆพ เทวะประทีป รรก.ผบ.นรข.เขตหนองคาย ,นายนพดล จอมเพชร นายอำเภอสังคม ,พ.ต.อ.ณรงค์ ตันดี ผกก.สภ.สังคม ร่วมกันแถลงจับกุม นายพงศ์เพชร มีธรรม อายุ 36 ปี ที่อยู่ 8 หมู่ 2 ต.นางั่ว อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ ,นางสาวชฎารัตน์ ปลัดท้วม อายุ 30 ปี ที่อยู่ 19 ถนนนารีพัฒนา ต.ในเมือง อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ พร้อมด้วยของกลาง 1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ลักษณะกลมแบนสีแดงมีตราอักษร WY ประทับอยู่ด้านหนึ่งของเม็ดยา อีกด้านหนึ่งผิวเรียบ จำนวน 119 เม็ด 2.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ลักษณะเป็นเกล็ดแข็งสีใส น้ำหนักรวมประมาณ 17 กรัม 3.รถยนต์ยี่ห้อ ISUZU D-MAX สีขาว หมายเลขทะเบียน ผจ 8104 นครปฐม จำนวน 1 คัน 4.รถยนต์ยี่ห้อ CHEVROLET COLORADA สีแดง-ดำ หมายเลขทะเบียน กท 2226 เพชรบูรณ์ จำนวน 1 คัน 5.ปืนพกยีห้อ CZ 92 จำนวน 1 กระบอก พร้อมลูกกระสุน จำนวน 7 นัด แม็กกาซีน จำนวน 1 อัน 6.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ จำนวน 3 เครื่อง โดยแจ้งข้อกล่าวหา โดยสันนิษฐานว่ามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย (ผู้ต้องหาที่ และ 2) ,มีอาวุธและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต กฎหมาย (ผู้ต้องหาที่ 1 ) ,พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต (ผู้ต้องหาที่ 1 ) ร.อ.ไพรสน พลเสน รักษาราชการแทนหัวหน้าสถานีเรือสังคม เปิดเผยว่า วันที่ 28 ก.พ.2564 เวลาประมาณ 17.00 น. เจ้าหน้าที่ นรข.เขตหนองคาย (สถานีเรือสังคม) และ ร.ต.เศรษฐ์สัณห์ เบียดขุนทด รอง ผบ.มว.เคลื่อนที่เร็วที่ 1 ร้อยเคลื่อนที่เร็วที่ 2 (QRF)ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากฝั่ง สปป.ลาว ข้ามมายังฝั่งไทย บริเวณพื้นที่ อ.สังคม จ.หนองคาย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้ร่วมกันประชุมวางแผน ก่อนเดินทางเข้าไปยังพื้นที่เพื่อซุ่มเฝ้าตรวจสังเกตการณ์ โดย ได้แบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด โดยชุดที่ 1 สังเกตความเคลื่อนไหวบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงและเรือในแม่น้ำโขง และเจ้าหน้าที่ชุดที่ 2 เฝ้าตรวจที่บริเวณท่าทรายเหนือ ต.สังคม อ.สังคม จ.หนองคาย เพื่อสังเกตความเคลื่อนไหวของเรือในแม่น้ำโขง จนกระทั่งเวลาประมาณ 01.30 น. (1 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ชุด 1 ได้สังเกตเห็นรถยนต์จำนวน 2 คัน วิ่งเข้ามายังบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงแล้วได้ทำการเลี้ยวกลับหันหน้ารถไปยังทิศทางที่ขับเข้ามาจากนั้นได้จอดรถดับเครื่องยนต์ โดยมีรถยนต์คันที่ 1 จอดข้างหน้ารถยนต์คันที่ 2 จอดอยู่ข้างหลัง และมีบุคคลต้องสงสัยจำนวน 2 คน เปิดประตูและเดินลงจากรถยนต์คันที่ 1 เดินสังเกตการณ์บริเวณรอบๆตรงบริเวณที่จอดรถ แล้วบุคคลต้องสงสัยทั้ง 2 คน ได้เดินกลับขึ้นไปยังรถยนต์คันที่ 1 และได้สตาร์ทเครื่องยนต์ เจ้าหน้าที่ชุดที่ 1 จึงได้ติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ชุดที่ 2 ให้นำกำลังมาสกัดกั้นรถยนต์ทั้ง 2 คันดังกล่าวตรงบริเวณทางออกติดกับถนนหมายเลข 211 เพื่อแสดงตัวขอตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดที่ 1 จึงได้แสดงตัวเพื่อขอเข้าทำการตรวจค้น เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่แสดงอาการตกใจ แต่ชายคนขับรถคนที่ 2 ได้อาศัยความมืดเปิดประตูรถยนต์แล้ววิ่งหลบหนีหายไปในความมืดอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงไม่สามารถจับตัวได้ทัน เบื้องต้นจากการตรวจรถยนต์คันที่ 2 ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จากการตรวจรถยนต์คันที่ 1) พบ นางสาวชฎารัตน์ ปลัดท้วม (ทราบชื่อภายหลัง) เป็นคนขับรถ และนายพงศ์เพชร มีธรรม (ทราบชื่อภายหลัง) นั่งอยู่เบาะข้างคนขับรถยนต์ เจ้าหน้าที่จึงได้สอบถามข้อมูลเบื้องต้นว่าคนที่ขับรถคันที่ 2 ที่หลบหนีชื่ออะไร นางสาวชฎารัตนฯ และนายพงศ์เพชรฯ บอกทราบแค่ชื่อเล่นว่า หมู (ไม่ทราบชื่อ – สกุลจริง) ด้วยสถานที่เกิดเหตุมีแสงสว่างไม่เพียงพอ ร.อ.ไพรสน ฯ จึงได้สั่งการให้นำรถยนต์มายังโรงเรียนบ้านแก้งใหม่ซึ่งมีพื้นที่อยู่ใกล้บริเวณที่เกิดเหตุห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตรและมีแสงสว่างเพียงพอ เพื่อตรวจค้นภายในรถยนต์อย่างละเอียดอีกครั้ง โดยนางสาวชฎารัตน์ฯ และนายพงศ์เพชรฯ ให้ความยินยอมและร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี จากนั้นได้ทำการตรวจค้นภายในรถยนต์คันที่ 1 ผลการตรวจค้นภายในรถยนต์คันที่ 1) พบกระเป๋าถือสีขาวมีลายและกระเป๋าถือสีน้ำตาลวางอยู่บริเวณเบาะหลังคนขับเมื่อเปิดกระเป๋าสีขาวมีลายดูข้างในพบไอซ์และยาบ้าซุกซ่อนไว้จำนวนหนึ่ง และเมื่อเปิดกระเป๋าถือมีซิปรูดเปิด-ปิดสีน้ำตาล พบยาบ้าซุกซ่อนไว้ข้างในอีกจำนวนหนึ่ง และได้ตรวจพบอาวุธปืนพก 1 กระบอก แม็กกาซีน 1 แม็ก และลูกกระสุนปืน จำนวน 7 นัด ซุกซ่อนไว้อยู่ในช่องเก็บของภายในหน้ารถ โดยนายพงศ์เพชรฯ ให้การยอมรับว่ายาเสพติดและอาวุธปืนพกที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบ ทั้งหมดเป็นของตน จากนั้นได้ทำการตรวจค้นรถคันที่ 2 ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายภายในรถยนต์ เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมทั้งสอง ทั้งนี้จากการตรวจสอบอย่างละเอียดคาดว่าผู้ต้องหาทั้งหมดมาด้วยกันจำนวน 3 คน โดยขับรถยนต์มา 2 คัน เพื่อมารับยาบ้าริมฝั่งแม่น้ำโขง แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบก่อน และค้นในรถพบยาบ้า ไอซ์ และอาวุธปืน จากนี้จะได้นำผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่ง พงส.สภ.สังคม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป