ผบ.ทสส.เมียนมาพบ "บิ๊กตู่"ขอบคุณรัฐบาลดูแลแรงงานเมียนมาในประเทศไทยเป็นอย่างดี นายกฯย้ำพร้อมส่งเสริมความสงบสุขของประชาชนชายแดนสองประเทศ เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 30 ส.ค.60 ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง ไหล่ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดกองทัพแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่ทราบว่า ผบ.ทสส เมียนมาได้ร่วมเป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการระดับสูงไทย-เมียนมา ครั้งที่ 5 และเชื่อมั่นว่าความร่วมมือในกรอบการประชุมดังกล่าวจะเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและเมียนมาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น พร้อมแสดงความขอบคุณ ผบ.ทสส. เมียนมา ที่ได้ให้ความช่วยเหลือและบริจาคสิ่งของแก่ผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ของไทยเมื่อช่วงต้นปี 2560 พ.อ.อธิสิทธิ์ กล่าวว่า โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายมีความยินดีที่ไทยและเมียนมาจะฉลองครบรอบ 70 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ในปี 2561 และยืนยันความพร้อมที่จะทำงานร่วมกันใกล้ชิด เพื่อร่วมกันพัฒนาความสัมพันธ์และส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างกันในทุกระดับ ด้านความมั่นคง นายกรัฐมนตรียินดีที่ความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพไทย - เมียนมามีความใกล้ชิด รัฐบาลไทยยืนยันที่จะสนับสนุนความช่วยเหลือในทุกมิติระหว่างสองประเทศ และหวังว่ากลไกต่าง ๆ ที่มีอยู่ในความร่วมมือระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพเมียนมา จะดำเนินไปด้วยดี พ.อ.อธิสิทธิ์ กล่าวว่า โดยความร่วมมือเรื่องชายแดน นายกรัฐมนตรียืนยันว่าไทยจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่เพื่อส่งเสริมความสงบสุขของประชาชนบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา และขอให้เมียนมามองว่าเส้นเขตแดนควรเป็นเส้นแห่งความร่วมมือ โดยประสงค์ให้ทั้งสองฝ่ายร่วมกันเร่งรัดการดำเนินการเพื่อนำไปสู่การเจรจาเปิดจุดผ่านแดนถาวรและพัฒนาพื้นที่บริเวณเส้นเขตแดนต่อไป พ.อ.อธิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ในประเทศเมียนมา นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าไทยให้ความเคารพต่อการตัดสินใจของเมียนมา และยินดีที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ทั้งนี้ ผบ.ทสส เมียนมา แสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรี พร้อมกล่าวว่าการแก้ไขปัญหาดังกล่าวต้องใช้เวลา โดยอยู่บนพื้นฐานของการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ในการนี้ ผบ.ทสส. เมียนมา แสดงความขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้ความดูแลแรงงานเมียนมาในประเทศไทยเป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องการดูแลสิทธิต่างๆ ตามกฎหมายรวมถึงสวัสดิการขั้นพื้นฐาน นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายย้ำว่าไทยและเมียนมาพร้อมทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้ง 2 ประเทศในอนาคต