บอร์ด SUPER ไฟเขียวส่งบริษัทย่อย SWE เข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนาม 1 โครงการ ขนาด 50 เมกะวัตต์ มูลค่าการเข้าซื้อ 164.19 ล้านบาท บิ๊กบอส “จอมทรัพย์ โลจายะ” เปิดแผนปี 64 ผลงานโตต่อเนื่อง บุ๊คกำไรโซลาร์ฟาร์มเวียดนาม 550 MW เต็มปี ระบุโปรเจควินด์ฟาร์มเฟสแรก 30 MW จ่อ COD ปลายปีนี้ ก่อนทยอยเสียบปลั๊กครบ 421 MW ภายในปี 65 ดันกำลังผลิตพุ่งแตะ 1,900 MW นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SUPER) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 มีมติอนุมัติให้บริษัท ซุปเปอร์วินด์ เอนเนอร์ยี จำกัด (SWE) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ เข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ที่ประเทศเวียดนามจำนวน 1 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 50 เมกะวัตต์ โดยมีมูลค่าการเข้าทำรายการซื้อหุ้นไม่เกิน 125,144,240,000 ดองเวียดนาม หรือไม่เกิน 164.19 ล้านบาท “การเข้าลงทุนในครั้งนี้ SWE บริษัทย่อยเข้าซื้อหุ้นในบริษัท Asia Energy Company Limited (ASIA ENERGY) ซึ่งเป็นบริษัทเจ้าของโครงการ จากผู้ถือหุ้นเดิมใน ASIA ENERGY ซึ่งได้รับการบรรจุในแผนแม่บทของกระทรวงพลังงานของเวียดนาม โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการยื่นขอสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมโครงการ Asia Song Wind Power Plant ขนาดกำลังการผลิต 50 MW ซึ่งจะเป็นการเพิ่มศักยภาพ และสร้างการเติบโตในอนาคตต่อบริษัทอีกด้วย นอกเหนือจากโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฯที่บริษัทมี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SUPER กล่าวอีกว่า บริษัทฯยังคงขยายการลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ (Recurring Income) ผลักดันธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคงในระยะยาว โดยในปี 2564 คาดว่าผลการดำเนินงานจะเติบโต จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศเวียดนามจำนวน 3 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 550 เมกะวัตต์ ที่รับรู้เต็มปี จากการเดินเครื่องจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี 2563 นอกจากนี้ ยังได้ปัจจัยหนุนจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 421 เมกะวัตต์ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งก่อสร้าง คาดว่าในเฟสแรก 30 เมกะวัตต์ จะเห็นการทยอย COD ได้ในช่วงปลายปีนี้ต่อเนื่องถึงปี 2565 “แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น จากการลงทุนโรงไฟฟ้าในประเทศเวียดนาม โดยคาดว่ากำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,900 เมกะวัตต์ ตามแผนงานที่วางไว้ หนุนทั้งรายได้ และกำไร รวมทั้งมองโอกาสในการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจะพิจารณาการเข้าไปลงทุนในประเทศใหม่ๆเพิ่มเติม ในหลายรูปแบบ ผลักดันผลการดำเนินงานเติบโตอย่างแข็งแกร่ง” สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2563 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563) มีรายได้รวม 6,514.61 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,527.79 ล้านบาท