น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่กระทรวงการคลังจะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติจัดสรรงบเพิ่มเติมเพื่อใช้ในโครงการเราชนะ เนื่องจากประเมินว่า จะมีจำนวนผู้ที่ได้รับสิทธิ์ในโครงการนี้มากกว่าเป้าหมาย 31.1 ล้านคน โดยอาจจะอยู่ที่ 32 ล้านคน ทั้งนี้ปัจจุบันมีผู้ที่ได้รับสิทธิ์โครงการเราชนะแล้วจำนวนประมาณ 31.05 ล้านคน จากกลุ่มต่างๆดังนี้ กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 13.7 ล้านคน กลุ่มผู้ร่วมโครงการคนละครึ่ง-เราเที่ยวด้วยกันจำนวน 8.4 ล้านคน และกลุ่มทั่วไปที่เปิดให้ลงทะเบียน 8.95 ล้านคน อย่างไรก็ดีขณะนี้รัฐบาลได้เปิดให้กลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนทำการลงทะเบียนผ่านแบงก์รัฐและจุดบริการเคลื่อนที่ทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้มีผู้มาลงทะเบียนแล้วประมาณกว่า 1.5 ล้านราย คาดว่า อาจจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 1.7-1.8 ล้านราย มากกว่าเป้าหมายที่เดิมตั้งไว้เพียง 1 ล้านราย ดังนั้นเมื่อนำไปรวมกับกลุ่มที่ได้รับสิทธิ์เดิม จะทำให้มีจำนวนรายที่จะได้รับการเยียวยาเพิ่มจากเป้าหมายเดิม โดยอาจจะเพิ่มขึ้นไปถึงจำนวน 3.2 ล้านราย "ในกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนที่มาลงทะเบียนผ่านแบงก์รัฐและจุดบริการเคลื่อนที่นี้ เราพบว่า มีจะมีความซ้ำซ้อนกับยอดที่ลงทะเบียนทั่วไปด้วยเช่นกัน โดยในระยะแรกที่เปิดให้ลงทะเบียนอาจจะใช้สมาร์ทโฟนบุคคลในครอบครัวมาลงทะเบียนก่อน จากนั้นเมื่อรัฐบาลเปิดให้ลงทะเบียนผ่านจุดบริการและแบงก์รัฐ จึงมาลงทะเบียนเพิ่มเติม ดังนั้นยอดลงทะเบียนจริงของกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนอาจจะอยู่ที่ 1.7-1.8 ล้านราย" ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ์ของกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน โดยใช้เงื่อนไขเดียวกันกับกลุ่มอื่นๆ ซึ่งกลุ่มที่ลงทะเบียนระหว่างวันที่ 15 ก.พ.-21 ก.พ.64 จะเริ่มตรวจสอบสิทธิได้ในวันที่ 4 มี.ค.นี้ และได้รับการโอนเงินรอบแรกวันที่ 5 มี.ค.นี้ ส่วนในกลุ่มที่ลงทะเบียนในช่วงที่รัฐขยายระยะเวลาการลงทะเบียนให้คือ นับจาก 21 ก.พ.-5 มี.ค.นี้ จะค่อยๆทยอยประกาศสิทธิ์ และจะได้รับเงินโอนรอบแรกในวันที่ 19 มี.ค.นี้ โดยหลังการลงทะเบียนกลุ่มนี้เสร็จสิ้นในวันที่ 5 มี.ค.นี้จะพอรู้ว่า มียอดที่เราจะของบเพิ่มเติมจากคณะรัฐมนตรีจำนวนเท่าไหร่ เพราะประเมินว่า ในกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนนี้น่าจะเป็นกลุ่มที่ได้รับสิทธิ์ทั้งหมด เพราะเป็นผู้ที่มีรายได้น้อย ทั้งนี้ปัจจุบันคณะรัฐมนตรีอนุมัติงบโครงการเราชนะไว้ 2.1 แสนล้านบาท