ช่วงค่ำเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 64ที่ ลานไทวัสดุ สาขาสุขาภิบาล 3 แยกร่มเกล้า กทม. บรรยากาศ การนัดหมายทำกิจกรรม “รวมพลอาชีวะไล่เผด็จการ ครั้งที่ 2” ของ กลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมกับ กลุ่มอาชีวะสมุทรปราการ อาชีวะมีนบุรี และอีกหลายสถาบันเป็นไปอย่างคึกคัก โดยนายธนเดช ศรีสงคราม แกนนำอาชีวะไล่เผด็จการขึ้น กล่าวปราศรัย ความว่า ถ้าทุกคนไม่ร่วมมือ เราคงต้องอยู่ใต้เท้าเผด็จการ เราอาชีวะจับมือกันแล้ว บางครั้งในอดีตเราตีบ่อย แต่ตนอยากทำให้เห็นว่า อาชีวะยุคเผด็จการไม่ตีกัน เพราะเราจะไปตีประยุทธ์ จันทร์โอชา​ ขึ้นชื่อว่าประชาชนคนหนึ่ง เราไม่นิ่งดูดาย เพราะเล็งเห็นแล้วว่า ตอนนี้ปากท้องของประชาชนสำคัญที่สุด ถามว่ารัฐบาลประยุทธ์เห็นความสำคัญประชาชนหรือไม่ ไม่มี ไม่เคยนั่งในหัวใจประชาชน เพราะถือหางแต่นายทุน เจ้าสัว ไทยเราไม่ใช่ว่าจน เรามีงบประมาณมหาศาล 3.3 ล้านล้านบาท ถามว่าไปไหน ตนจะแจงให้ฟังอย่างชัดเจน ก็เพราะเอื้อนายทุน เอื้อเจ้าสัว เอาเงินไปทุ่มโครงการใหญ่ๆ เมกกะโปรเจกต์ เช่น เรือดำน้ำ บอกว่า เพื่อนบ้านมี เราต้องมี ทั้งที่ปัญหาชาติเราคือความจน ตั้งแต่ยึดอำนาจมา อยากถามสลิ่ม ม็อบ กปปส. ตอนนี้อยู่ดินดินดีไหม ร้านค้า กิจการออกมาโอดโอย เราจึงต้องออกมาทำ ออกมาพูดแทนประชาชน แม้วันนี้จะมีประชาชนไม่มาก แต่เรายังมีสื่อโซเชียล เชื่อว่าทุกคนคงได้เห็น ตอนนี้ประเทศไทย กลายเป็นย่ำแย่ที่สุด ทั้งที่ไทยเรามีครบทุกอย่าง พืช ผัก ผลไม้ แต่มีนายก ที่ถามวัว ตอบควาย ถามแมว ตอบสุนัข น้ำท่วมให้เลี้ยงปลา น้ำท่วมภาคใต้ นายกขึ้นเหนือ “ขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ทำตามคำเรียกร้องของประชาชนทุกกลุ่ม เราจะชุมนุมไปเรื่อยๆ จนกว่าประยุทธ์จะทำตามข้อเรียกร้อง อาชีวะขอสู้แบบไต่ระดับ ไม่เอาแบบ 3 ชั่วโมงกลับ จะปักหลักให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย เดี๋ยวจะได้รู้ว่าอาชีวะสู้สุดแค่ไหน เราจะจับมือทุกสถาบัน และบุกฐานที่มั่นประยุทธ์ จันทร์โอชา หากกลุ่มเสื้อแดง เหนือ อีสาน กลาง ตะวันออก ได้ยินเสียงนี้ เชื่อว่าเราจะจับมือสู้ไปด้วยกัน ไม่ว่ากลุ่มไหน เราคือคนไทย จับมือสู้กับระบอบประยุทธ์ ที่มีรอยร้าว ขอให้สามัคคีกันทุกกลุ่ม อย่างน้อยเราคนไทย อย่าให้อายพม่า เพราะประเทศที่ตกอยู่ใต้เผด็จการทุกประเทศ จะด้อยพัฒนา ไม่มีทางเดินไปข้างหน้า ตอนนี้เวียดนามกลายเป็นเสืออาเซียน ทั้งที่ไทยเคยเป็นเสือตัวที่ 5 แต่ตอนนี้ ไทยกลายเป็นหนู เพราะฝีมือการบริหารของประยุทธ์” นายธนเดชกล่าวต่อว่า เอารัฐธรรมนูญ 60 ใส่กระเป๋ากลับบ้าน รัฐธรรมนูญและนายกต้องมาจากประชาชน ถามว่าพี่น้องตื่นหรือยัง จะทนประยุทธ์อีกนานแค่ไหน ถ้าไม่ทน มีม็อบครั้งหน้าออกมาช่วยกันส่งเสียง แล้วเราจะไม่สู้แบบ มาๆ ถอยๆ ถ้าม็อบเราแข็งแรงเมื่อไหร่ เราก็พร้อมสู้ปักหลักค้างแรม สู้กับประยุทธ์ แต่ถ้าประชาชนของเรายังนิ่ง ยังเฉย ยังทนให้นายกประยุทธ์บริหารประเทศต่อ ก็มีแต่จะลงเหว พม่าอยู่ในอำนาจเผด็จการมากี่ปี เพิ่งได้อยู่ในระบบประชาธิปไตยไม่กี่ปี ก็ถูกทหารยึดอำนาจ เขาถึงไม่ทน ลุกฮือทั้งประเทศ ไม่ว่าหน่วยงานไหน เขารวมพลหยุดงานเพื่อออกมาเรียกร้อง เขาไม่นิ่งเฉยต่ออำนาจเผด็จการเหมือนเรา แต่เราใยเล่าถึงยั่งนิ่งเฉย อย่าให้น้อยหน้าพม่า เราต้องออกมา ไม่อย่างนั้น เราก็คงจะอยู่แบบนี้อีกต่อไป ไทยคงตกเป็นเมืองขึ้นประเทศอื่นประยุทธ์กู้ไปแล้ว 9 ล้านล้าน “ฝากไปถึง คุณอาคม เติมพิทยาไพสิฐ ที่ว่าไม่อยากให้เงินสดประชาชน กลัวติดโควิด คนแก่เฒ่าต้องเหมารบถมารับเงินเยียวยาอันน้อยนิด จนล้นธนาคารออกมาถนน เป็นภาพที่เราไม่อยากเห็น และได้ข่าวว่า มีคนติดโควิดแล้ว ถามว่าที่จับจ่ายใช้สอย ใช้ใบไม้หรือ ทำเหมือนประเทศเพื่อนบ้านหน่อย สั่งปิดร้าน รัฐเยียวยาทันที 9 แสนกว่าบาท แต่ของไทยแล้วแต่ ตามเวรกรรม ทำเหมือนประชาชนเป็นขอทาน รัฐสวัสดิการแบบชิงโชค ให้ประชาชนตื่นแต่เช้ามาแย่งกันลงทะเบียน ถ้าประชานยังทนกับอะไรแบบนี้ เราคงอยู่กับเผด็จการไปอีกนาน เพราะมี รัฐธรรมนูญ และ 250 ส.ว. เราจึงต้องมาขับไล่ และเอารัฐธรรมนูญ 40 มาใช้ เราถึงหลุดพ้นระบอบประยุทธ์ จันทร์โอชา วันนี้ไม่เสียใจเลยที่ได้ออกมาต่อสู้ แม้ปลายทางจะเจอกับอะไร หรืออาจจะถูกดำเนินคดี แต่อย่างน้อยก็ทำให้เห็นว่าลุกขึ้นสู้ และท่านที่ดูอยู่ ลุกขึ้นสู้หรือยัง ตอนนี้ขาผมหนึ่งข้างเข้าไปอยู่ในคุกก็ไม่เป็นไร ลุกสู้ดีกว่านิ่งเฉยให้ระบอบประยุทธ์กดหัว ในฐานะคนไทยไม่สามารถสู้คนเดียวได้ ให้สัญญาไม่ได้ว่าจะสู้ไปถึงเมื่อไหร่ และไกลแค่ไหน แต่สัญญาได้ว่า อาชีวะจะขอต่อสู้เคียงข้างประชาชนตลอดไป ขอบคุณพี่น้องอาชีวะทุกคนที่มาวันนี้ เราจับมือไม่ตีกัน ร่วมใจกันเป็นหนึ่งเพราะเราจะไม่ทนอีกแล้ว ผมให้สัญญาว่า ถ้าประชาชนตอบสนองม็อบอาชีวะไล่เผด็จการ ไม่ว่ากลุ่มไหน มาจากไหน เราจะจับมือกัน ปักหลักค้างแรมสู้ไปด้วยกันให้รู้แล้วรู้รอด ถึงวันนี้เราจัดกิจกรรมประชาชนจะเห็นหรือไม่เห็น แต่เชื่อว่าภายภาคหน้า หลายคนคงได้เห็นความตั้งใจของเรา “ผมภูมิใจกับสิ่งที่เริ่มทำ เราไม่สามารถสร้างกรุงเสร็จเพียง 2-3 วัน ต้องใช้เวลา เหมือนเราเรียกร้องประชาธิปไตย ต้องมีการเดินทาง มีคนบาดเจ็บบ้าง ในอดีตเราก็ทราบดีกว่า มีพี่น้องสูญเสียจากการเรียกร้องประชาธิปไตยจำนวนมาก ทั้งนักศึกษาประชาชน ที่เราออกมาสู้วันนี้ เน้นสันติวิธี เราไม่ต้องการใช้ความรุนแรงปะทะกลุ่มใด ฝากถึงพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ไม่ว่าฝ่ายไหน ขอให้คำนึงถึงปากท้องพี่น้องประชาชน คนยากจน คนแก่เฒ่า ที่เขากำลังเดือดร้อน ถ้าคนไทยสามัคคีเป็นหนึ่ง ออกมาเรียกร้อง เชื่อว่าชัยชนะ ประชาธิปไตย เป็นของคนไทยทั้งแผ่นดิน” นายธนเดชกล่าว หลังจากนั้น มวลชนตะโกน “เผด็จการจงพินาศ ประชาชนจงเจริญ” ทั้งนี้ ภาคีอาชีวะไล่เผด็จการ ประกาศด้วยว่า จะมีการนัดหมายชุมนุมทุกวันเสาร์ โดยจะแจ้งรายละเอียดอีกครั้ง ก่อนยุติกิจกรรมในเวลา 20.45 น. โดยนักศึกษาอาชีวะหลายกลุ่มได้ถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก ก่อนแยกย้ายกลับบ้าน