นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากการประเมินสถานะการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัญหาจากไวรัสโควิน-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ที่เวลานี้ได้มีวัคซีนต้านไวรัส ทำให้ภาพของการลงทุนกลับมามีความชัดเจนอีกครั้ง ซึ่งส่งผลให้จีดีพีของประเทศน่าจะกลับมาเป็นบวกได้
ทั้งนี้ในส่วนเอปสันได้เร่งเตรียมความพร้อมสำหรับการรุกตลาดบีทูบี ควบคู่ไปกับการปรับเปลี่ยนโครงสร้างและกระบวนการทำงานภายใน พัฒนาศักยภาพของเครือข่ายตัวแทนจำหน่าย รวมไปถึงเพิ่มคุณค่าในส่วนต่างๆ ซึ่งช่วยยกระดับความพึงพอใจและประสบการณ์ของลูกค้า โดยตั้งเป้าว่าบริษัทจะกลับมาเติบโตได้ในระดับที่มากกว่า 10% ในปีนี้ จากปีที่ผ่านภาพรวมธุรกิจติดลบประมาณ 15%
อย่างไรก็ดีการจัดโครงสร้างและกระบวนการทำงานภายในองค์กรมีการขยายทีมขายบีทูบีทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมถึงทีมพิเศษที่เน้นเจาะตลาดและดูแลลูกค้าองค์กรญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ทั้งยังขยายทีมบริการลูกค้าบีทูบีเพิ่มขึ้นด้านการพัฒนาตัวแทนจำหน่าย มีการเพิ่มจำนวนตัวแทนที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะตลาดและได้ฝึกอบรมตัวแทนเดิมให้สามารถขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ๆ
นอกจากนี้เอปสันได้ทดลองเปิด "Epson EasyCare 360" บริการเช่าเครื่องพรินเตอร์แบบรายแพคเก็จสำหรับลูกค้า Epson WorkForce ที่ต้องพิมพ์งานปริมาณมากอยู่เป็นประจำ เพื่อแข่งขันกับบริการของแบรนด์เครื่องถ่ายเอกสาร ซึ่งลูกค้าสามารถควบคุมต้นทุนการพิมพ์ของตัวเองได้ ไม่ต้องสต๊อกหมึก เพราะบริษัทฯ จะส่งหมึกให้โดยคำนวณค่าใช้จ่ายจากจำนวนพิมพ์รายแผ่น ทั้งยังมีบริการ On-site service ส่งช่างซ่อมไปถึงออฟฟิศ นอกจากนี้ ยังมีบริการ ‘Epson EasyCare Mono’ เพื่อกลุ่มลูกค้า Epson EcoTank M-series ให้สามารถเช่าเครื่องพร้อมหมึกแบบเหมาจ่ายรายเดือน และรับทันทีทั้งบริการติดตั้งพรินเตอร์ให้ถึงออฟฟิศ บริการจัดอบรมการใช้งาน และบริการแก้ปัญหาเบื้องต้นผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งทั้งสองบริการได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เอปสันจึงเดินหน้าแผนดิสรัปท์โมเดลธุรกิจกลุ่มอิงค์เจ็ทพรินเตอร์ทั้งหมด จากที่เคยเน้นการขายเครื่องมาเป็นการบริการงานพิมพ์”
"บริษัทฯ ได้ทำการสำรวจความเห็นขององค์กรธุรกิจ พบว่าสิ่งที่บริษัทส่วนใหญ่กังวลคือค่าพิมพ์สีต่อแผ่น ตามด้วยคุณภาพงานพิมพ์ และบริการซ่อมบำรุง เอปสันจึงได้ออกบริการเช่าเครื่องแบบใหม่ในชื่อ ‘Epson EasyCare 360 เหมา เหมา’ โดยลูกค้าสามารถพิมพ์สีหรือขาวดำก็ได้ มากสุดถึง 120,000 แผ่น หรือนาน 24 เดือน ทั้งยังได้บริการซ่อมบำรุงถึงที่ และเบอร์โทรสายตรงตอบกลับภายใน 2 ชั่วโมง ทั้งหมดนี้ มีค่าบริการรายเดือนเริ่มต้นเพียง 790 บาท แถมยังจะได้รับเครื่องที่ใช้อยู่ไปฟรีๆ หลังหมดสัญญา"
นายยรรยง กล่าวว่า หากใช้เกินนั้น ก็จะมีหลายออปชั่นให้เลือก แล้วแต่พาร์ทเนอร์ว่าจะตั้งราคาไว้อย่างไร โดยเริ่มต้นจากเดือนละ 790 บาทเป็นต้นไป แล้วแต่ขนาดของธุรกิจ หรือการใช้งาน โดยกลุ่มที่บอกว่า ตอบโจทย์การใช้งานจริงๆ คือบรรดาโรงเรียนที่อยากได้มาก เพราะสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนได้ และตอนนี้ บริการนี้ก็เริ่มมีแล้วในบางพื้นที่