เมื่อเวลา 22.45น. คืนวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 ี่ผ่านมา ศูนย์วิทยุรับแจ้งเหตุสถานีตำรวจภูธรกาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ทางสายด่วนหมายเลข191 ว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนจึงได้เร่งประสานรถน้ำดับเพลิงป้องกันบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลกาบเชิงให้ออกตรวจสอบสนับสนุนดับเพลิงที่กำลังโหมไหม้บ้านเรือนประชาชนร่วมกับรถน้ำดับเพลิงป้องกันบรรเทาสาธารณภัยโคกตะเคียนพร้อมเจ้าหน้าที่อาสาหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม จุด อ.กาบเชิง อาสาหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม จุด อ.ปราสาท หน่วยกู้ชีพเทศบาลกาบเชิง หน่วยกู้ชีพโคกตะเคียน และชาวบ้านช่วยกันระดมฉีดน้ำดับเพลิงที่กำลังโหมลุกไหม้อย่างหนักไว้ได้ใช้เวลารวบกว่า1ชั่วโมงจึงสามารถดับเพลิงไว้ได้
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเลขที่ 134 ม.5 บ.โคกกลาง ต.กาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ทราบชื่อเจ้าของบ้าน นายเสวียน สำรวมจิตร และ นางสมพงศ์ สำรวมจิตร อายุ 58 ปี สองสามีภรรยา จากการสอบถามต่อเหตุการณ์ได้เล่าให้ฟังว่าขณะเกิดเหตุตนเองกำลังนอนอยู่ชั้นล่างและได้ยินเสียงคลายระเบิดจึงได้ลุกขึ้นมาดูได้เหลือบไปเห็นเปลวเพลิงที่กำลังลุกไหม้และมีเสียงระเบิดเป็นระยะที่ชั้น 2 ของบ้าน ตนเองจึงรีบลุกขึ้นไปตักน้ำใส่ถังน้ำ วิ่งขึ้นไปดับไฟที่กำลังลุกไหม้แต่เพลิงได้ลุกลามอย่างรวดเร็วมาก จึงได้พากันวิ่งลงไปเรียกชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงให้มาช่วยกันดับไฟ ขณะรถน้ำดับเพลิงจากหน่วยป้องกันบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลกาบเชิงและหน่วยป้องกันบรรเทาสาธารณภัยโคกตะเคียนจะเข้ามาช่วยดับเพลิงไว้ได้ในที่สุด แต่เอาทรัพย์สินในบ้าน ออกมาไม่เลย หมดเนื้อหมดตัวกันเลย
หลังจากที่เพลิงสงบลงพบว่ามีบ้านเรือนถูกเพลิงไหม้จำนวน 1 หลังคาเรือน ได้รับความเสียหายทั้งหลังพร้อมทรัพย์สินสิ่งของมีค่าภายในบ้านถูกไฟไหม้ไปทั้งหมดและ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด โดยต้นเพลิงเกิดจากชั้นสองของตัวบ้านได้รับความเสียหายทั้งหลัง ส่วนสายเหตุยังไม่แน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใดในครั้งนี้จึงต้องรอให้ถึงรุ่งเช้าเจ้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรสุรินทร์ เข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง และเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดจะได้ดำเนินการเข้าตรวจสอบและประเมินค่าความเสียหายทั้งหมดอีกครั้งในช่วงเช้าวันนี้
ขณะที่ พ.ต.ท.สมบูรณ์ พรมบุตร พนักงานสอบสวนเวรสถานีตำรวจภูธรกาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ได้ทำการเข้าตรวจสอบเก็บภาพและข้อมูลเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเรียบร้อยแล้วหลังจากนั้นจึงได้สั่งการให้กันพื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุไว้รอช่วงเช้าจะได้แจ้งให้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบอีกครั้งและจะได้เรียกเจ้าของบ้านรวมถึงพยานในที่เห็นเหตุการณ์ในจุดเกิดเหตุเพื่อสอบถามหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อเหตุการณ์เพลิงไหม้ในครั้งนี้ต่อไป