อคส.ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ 4 กลุ่มผู้ประกอบการดังนี้ สมาคมส่งเสริมการประมง,บริษัทกลุ่มผู้ค้าสัตว์น้ำปทุมธานี จำกัด,ผู้แทนเรือเดินทะเล และผู้ประกอบการรับฝากสินค้าในห้องเย็น เพื่อสร้างความร่วมมือในการพัฒนาห่วงโซ่การผลิต(Supply Chain) และนับเป็นครั้งแรกของแผนยุทธ์ศาสตร์ “แก้มลิง ++”สอดรับกับนโยบายของรัฐและกระทรวงพาณิชย์เรื่อง “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด”
นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า(อคส.) เปิดเผยภายหลังการลงนาม บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ 4 กลุ่มผู้ประกอบการ ว่า “องค์การคลังสินค้าได้ลงนาม บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) 4 กลุ่มผู้ประกอบการได้แก่ สมาคมส่งเสริมการประมง,บริษัทกลุ่มผู้ค้าสัตว์น้ำปทุมธานี จำกัด,ผู้แทนเรือเดินทะเล และผู้ประกอบการรับฝากสินค้าในห้องเย็น โดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างความร่วมมือในด้านต่างๆได้แก่ การพัฒนาห้องเย็นเพื่อรองรับสินค้าประมงและสินค้าเกษตร เพื่อการเก็บรักษาคุณภาพของสินค้าให้มีความสด สะอาด เป็นสินค้าที่มีคุณภาพปลอดภัย ช่วยดูแลเก็บรักษาสินค้าดังกล่าวให้กับเกษตรกร ชาวประมงในช่วงที่ราคาผลผลิตตกต่ำ
ขณะเดียวกันยังรวมถึงการสนับสนุนและส่งเสริมประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจให้กับผู้ประกอบการด้านระบบโลจิสติกส์ของประเทศ การส่งเสริมกิจกรรมด้านตลาดสัตว์น้ำ การพัฒนาด้านสุขอนามัยเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าประมงตลอดจนการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าประมงทั้งนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งผู้ประกอบการชาวประมงและเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การพัฒนาท่าเทียบเรือราษฎร์บูรณะที่คลังสินค้าราษฎร์บูรณะ องค์การคลังสินค้า ให้เป็นส่วนหนึ่งของระบบการขนส่งทางน้ำซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในระบบโลจิสติกส์ของประเทศ มีแผนการพัฒนาและการให้บริการที่ดีเพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับประเทศทั้งในด้านการนำเข้าและส่งออก
ทั้งนี้ในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ 4 กลุ่มผู้ประกอบการดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานขององค์การคลังสินค้าให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งให้ดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเกษตร สินค้าอุปโภคบริโภค ตลอดจนธุรกิจบริการกับสินค้าดังกล่าว อีกทั้งยังจะเป็นการสนองนโยบายของทั้งรัฐบาลในด้านการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ และนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ในเรื่อง เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาดเพื่อขับเคลื่อนองค์การคลังสินค้าให้เป็นกลไกหนึ่งของรัฐบาล และกระทรวงพาณิชย์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และเกิดประโยชน์ต่อทั้งเกษตรกร ชาวประมงและผู้ประกอบการ