จากกรณีโลกโซเชียลมีการแชร์ต่อคลิปเหตุการณ์กระทบกระทั่งกันกับตำรวจ ก่อนด่าทอกันไปมา ตะโกนโวยวายกันเสียงดังลั่น มีการนำโทรศัพท์มีอถือขึ้นมาถ่ายคลิป โดยระบุว่ากลุ่มคนที่ยืนต่อล้อต่อเถียงกับตำรวจอยู่นั้น เป็นคนกลุ่มเดียวกับที่เคยตกเป็นข่าวโด่งดังมาแล้วในโลกโซเชียลเมื่อช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในข่าวครอบครัวหัวร้อน เมื่อประมาณปี 2561 ที่เคยไปทะเลาะกับตำรวจในจังหวัดระยอง ตามที่ข่าวเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าวันที่ 25 ก.พ.64 ที่ สน.ดินแดง เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายพะยอม แสงวัน อายุ 33 ปี ที่ขับรถดังกล่าวมาฝากขังที่ศาลแขวงพระนครเหนือศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ศาลเเขวงพระนครเหนือ ในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่
พ.ต.ท.โรมรัญ ศรีเรือง สารวัตรจราจร สน.ดินแดง กล่าวว่าขณะปฏิบัติหน้าที่บริเวณแยกประชาสงเคราะห์ ถ.ดินแดงขาเข้า มุ่งหน้าทางด่วนดินแดง เมื่อเย็นวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา พบรถกระบะมาสด้าป้ายแดง บรรทุกคนมาจำนวนมาก เข้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ได้เรียกตรวจสอบ เบื้องต้นพบผู้ต้องหา ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ เป็นคนขับรถ พร้อมด่าทอเจ้าหน้าที่ด้วยคำหยาบคายและครอบครัวได้รุมถ่ายคลิปการปฏิบัติงาน ก่อนที่ตำรวจจะชี้แจงให้ทราบถึงรายละเอียดตามที่ปรากฏในภาพ พร้อมเชิญตัวมาที่สน.ดินแดง เพื่อดำเนินคดีในข้อหา นำรถที่ไม่ได้จดทะเบียนมาใช้ในทาง, ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ฯ และดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ รวม 3 ข้อหา ซึ่ง 2 ข้อหาแรกได้ดำเนินการเปรียบเทียบเรียบร้อยแล้ว ระหว่างการจับกุม กลุ่มของผู้ถูกกล่าวหาได้บอกให้เจ้าหน้าที่รับโทรศัพท์ โดยกล่าวอ้างว่าทนายความขอเจรจา กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แลกกับการที่จะไม่ให้ดำเนินคดี โดยผู้ถูกกล่าวหาพร้อมที่จะขอโทษ และรับผิดกับเหตุการณ์ หากถูกดำเนินคดีจะถูกเพิ่มโทษ เนื่องจากกลุ่มผู้ถูกหามีพฤติกรรมหัวร้อนกับตำรวจมาแล้วหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในปี 2561 เกิดเหตุการณ์มีปากเสียงและชกต่อยกับตำรวจที่ สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง จนถูกดำเนินคดีเป็นข่าวโด่งดัง รวมทั้งในพื้นที่ สภ.ปราสาท จ.สุรินทร์ และสภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี และมีคดีกับประชาชนในพื้นที่อื่นๆ
วันเดียวกันเวลา 15.00 น. ศาลเเขวงพระนครเหนือ ได้พิพากษาลงโทษนายพะยอม ในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ เป็นโทษปรับจำนวนเงิน 2,500 บาท และปล่อยตัวกลับโดยไม่มีเงื่อนไข