เมื่อเวลา 17.30 น. นายราเมศ รัตนเชวง โฆษกพรรคปรชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุมพรรคว่า ที่ประชุมไม่ได้พิจารณากรณี3 ส.ส.ที่แหกมติพรรคในการลงมติในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี โดยให้ทำหนังสือชี้เแจงเหตุผลของการลงมติดังกล่าว แต่ได้มีส.ส.พรรคจำนวน 23 คนทำหนังสือยื่นต่อเลขาธิการพรรคเพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนส.ส.ทั้ง3 คน เนื่องจากมีความรู้สึกว่าการกระทำดังกล่าวไม่เหมาะสมที่งดออกเสียงหัวหน้าพรรค แต่กลับไปลงมติไว้วางใจรัฐมนตรีคนอื่น โดยต้องเป็นไปตามข้อบังคับพรรค คือเลขาธิการพรรคพิจารณาเอง หรือตั้งกรรมการสอบจำนวน 3 คน เพื่อให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน ดังนั้นผลจะออกมาเป็นอย่างไรคงต้องรอกระบวนการสอบสวนก่อน แต่ขณะนี้ยังไม่เริ่มต้น นายราเมศกล่าวยืนยันว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่รอยร้าวภายในพรรคเพราะถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับบุคคลเพียง 3 คน และสังคมคงจะเข้าใจว่าสิ่งที่ทั้ง 3 คนกระทำนั้นถูกต้องหรือไม่ อยากถามว่าหากนายอันวาร์ สาแระ ส.ส.ปัตานี ได้เป็นหัวหน้าพรรคแล้วสมาชิกทำอย่างนั้นบ้างแล้วจะรู้สึกอย่างไร เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย และรัฐธรรมนูญก็ให้เอกสิทธิ์ของส.ส.ในการลงมติ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า รัฐธรรมนูญให้เอกสิทธิ์ของส.ส.นั้นก็ถูกต้อง แต่ทุกคนก็ต้องยึดถือข้อบังคับ และมติพรรค เพื่อให้พรรคสามารถดำรงอยู่ได้ และก่อนที่จะโหวตมีการประชุมส.ส.พรรคทำไมไม่มีใครบอกว่ารัฐมนตรีของพรรคชี้แจงไม่ชัดเจน หรือบอกว่าจะไม่โหวตให้ และเสียงข้างมากก็มีมติให้ทุกคนโหวตไว้วางใจ ก็ต้องยึดตามมตินี้ ดังนั้นเรื่องนี้ไม่จบแน่ ต้องมีการดำเนินการตามข้อบังคับพรรค รายงานข่าวแจ้งว่าการที่ที่ประชุม มีนายพนิต วิกิจเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายอันวาร์ มาร่วมประชุม ส่วนนายอภิชัย เตชะอุบล ส.ส.บัญชีรายชื่อไม่ได้เข้าประชุมด้วย โดยนายพนิตพยายามที่จะชี้แจงถึงเหตุผลที่ทำไป แต่นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ไม่ให้พูดเรื่องนี้ โดยขอให้รอจนกว่าการเลือกตั้งซ่อมจะเสร็จสิ้น และเกรงว่าจะเกิดปัญหาภายในพรรค ดังนั้นขอให้ส.ส.ทั้ง3 คน ส่งเอกสารคำชี้แจงมาแทน ทำให้นายพนิตได้ส่งจดหมายเปิดผนึกเกี่ยวกับเหตุผลทั้งหมดให้กับหัวหน้าพรรคแทน ส่วนนายอันวาร์ได้ออกจากห้องประชุมไป เมื่อเห็นว่าไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้ ทั้งนี้จดหมายเปิดผนึกของนายพนิตระบุเนื้อหาสรุปได้ว่า เมื่อได้ฟังการอภิปรายรัฐมนตรีทั้ง 10 คน แล้ว แต่ตนไม่สามารถลงมติไว้วางใจกับรัฐมนตรี 3 ท่านได้ แต่เพื่อให้มีผลกระทบกับพรรคประชาธิปัตย์ และรัฐมนตรีของพรรคน้อยที่สุด และมารยาททางการเมืองในการร่วมรัฐบาล จึงตัดสินใจลงมติเป็น “งดออกเสียง” สำหรับทุกท่าน และยังย้ำด้วยว่าหลักการตัดสินใจของตน ถือว่าเป็นสิ่งที่ได้คิด วิเคราะห์มาแล้ว และหลังจากนี้ก็พร้อมที่จะรับผิดชอบใน “จุดยืน” ของตนกับการลงมติในครั้งนี้