กรมการแพทย์แผนไทยฯ เปิดสรรพคุณน้ำมันนวดแก้ปวดเมื่อย มี “ไพล” เป็นสมุนไพรหลัก สำหรับยากินแก้อาการปวดประจำเดือน และขับน้ำคาวปลาในหญิงหลังคลอด ยกนิ้วให้เป็นโปรดักส์แชมป์เปี้ยน นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ในฐานะ โฆษกกรม กล่าวว่า หลายท่านใช้น้ำมันนวดซึ่งเรียกกันหลากหลาย เช่น น้ำมันเหลือง น้ำมันไพล ทาถูนวดแต่ส่วนใหญ่ไม่ทราบว่ามีสมุนไพรที่เรียกชื่อว่า “ไพล” เป็นสมุนไพรหลักในตำรับดังกล่าว ทั้งนี้ ไพลได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมุนไพรกลุ่มโปรดักส์ แชมเปี้ยน เนื่องจากมีสรรพคุณที่บำบัดอาการได้ชะงัด ทั้งในรูปแบบของยา และเครื่องสำอาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มยาตำรับ ไพลจะโด่งดังเป็นที่รู้จักในรูปของผลิตภัณฑ์ของน้ำมันไพล แต่อีกสรรพคุณที่คนส่วนใหญ่ ไม่ทราบเกี่ยวกับไพล คือ แก้ปวดประจำเดือน ขับน้ำคาวปลาในหญิงหลังคลอดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามตำราสรรพคุณยาไทยนั้น ไพลมีรสฝาดขื่นเอียน จากการศึกษาวิจัยพบว่า ไพลมีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบอีกทั้งไพลยังเป็นเครื่องยาในตำรับยาไทยได้โดยขนาด ที่ใช้ขึ้นกับตำรับยานั้นๆ ซึ่งปัจจุบันผลิตภัณฑ์จากไพล ที่ได้รับอนุมัติให้อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ คือ ยาไพล ชนิดครีมใช้บรรเทาอาการบวม ฟกช้ำ เคล็ดยอก และ ยาประสะไพล บรรเทาอาการปวดประจำเดือน ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ใช้ขับน้ำคาวปลาในหญิงหลังคลอด สำหรับการใช้ยาประสะไพลนั้น มีข้อห้าม คือ ห้ามใช้ในหญิงตกเลือดหลังคลอด หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีไข้ ห้ามรับประทานในหญิงที่มีประจำเดือนมากกว่าปกติ เพราะจะทำให้ประจำเดือน ขับออกมามากขึ้น คำเตือน ควรระมัดระวังการใช้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นโรคตับและโรคไตเรื้อรัง หากต้องการปรุงไว้ใช้เอง สำหรับใช้บรรเทาอาการปวดเมื่อย มีวิธีการง่ายๆ ให้นำเหง้าไพล จำนวน 1 เหง้า ตำคั้นน้ำนำมาทาถูนวดบริเวณที่มีอาการ หรือตำให้ละเอียดผสมเกลือเล็กน้อย คลุกเคล้าให้เข้ากันห่อเป็นลูกประคบ อังไอน้ำให้ร้อน ใช้ประคบบริเวณที่มีอาการ ส่วนวิธีการทำน้ำมันไพล ใช้ไพลสด จำนวน 2 กิโลกรัม หั่นเป็นชิ้นบางๆ ทอดในน้ำมันพืชด้วยไฟอ่อนๆ จนเป็นสีเหลืองหรือแห้งกรอบ จึงเอามาพักไว้ใส่กานพลูผง จำนวน 4 ช้อนชา ทอดต่อด้วยไฟอ่อน ประมาณ 10 นาที จากนั้นนำมากรองด้วยผ้าขาวบาง รอจนน้ำมันอุ่นใส่การบูร 4 ช้อนชา จัดเก็บในภาชนะปิดมิดชิด รอจนเย็นจึงเขย่าให้การบูรละลายเข้ากันดี สามารถเก็บไว้ใช้งานได้นาน 2 ปี กรรมวิธีเหล่านี้หาได้ในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 14 วันที่ 30 สิงหาคม – 3 กันยายน 2560 ตั้งแต่เวลา 10.00 น.-20.00 น. ที่อิมแพคเมืองทองธานี ฮอลล์ 6-7-8